เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 น.ส.ทัศนีย์ วีระกันต์ ผู้ประสานเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก กล่าวในงานสัมมนา “เกษตรกรรมไทยหลังมติแบน พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส” ณ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ชั้น 2 ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ กรุงเทพฯ ว่า หลังจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติห้ามใช้สารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิด คือพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ตนก็มีข้อเสนอไปถึงรัฐบาลให้มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในระยะเปลี่ยนผ่าน
ประกอบด้วย 1.มาตรการทางการเงิน ได้แก่ การจัดตั้งกองทุนชดเชย เยียวยาผู้ได้รับความเสียหายในช่วงปรับเปลี่ยน รวมถึงจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการทำเกษตรกรรมยั่งยืน 2.มาตรการทางภาษี ให้มีการลดภาษีนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่เข้ามาทดแทนการใช้สารเคมี และส่งเสริมการพัฒนาเครื่องและอุปกรณ์เพื่อใช้ในการเกษตร และ 3.กำหนดมาตรการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง เช่น จัดตั้ง พ.ร.บ.ควบคุมสารเคมี โดยให้แยกออกจาก พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และจัดตั้ง พ.ร.บ.สนับสนุนเกษตรกรรมยั่งยืน
เช่นเดียวกับ นายสุนทร รักษ์รงค์ เลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สคยท.) กล่าวว่า สคยท.ยืนยันถึงความพร้อมในการเปลี่ยนไปสู่สวนยางยั่งยืน จำนวน 8 ล้านไร่ อึงกระนั้นตนก็อยากให้รัฐบาลมีมาตรการสร้างแรงจูงใจให้พี่น้องชาวสวนยางปรับเปลี่ยนจากสวนยางเชิงเดี่ยวมาเป็นสวนยางยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีมาตรการทางนโยบายที่ชัดเจน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี