หนุ่มกำแพงเพชรเลียนแบบ YouTube ประกอบระเบิดปลอม และใช้อาวุธปืนปลอม  พร้อมเขียนจดหมายขู่บุกฉายเดี่ยวจี้เงินธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านโป่งที่ราชบุรี อ้างนำเงินไปใช้หนี้กว่า 500,000 แต่ไปไม่รอดถูกตำรวจรวบคาธนาคาร

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 เวลา 11.00 น. เกิดเหตุหนุ่มวัย 22 ปี บุกเดี่ยว นำระเบิดปลอมพร้อม อาวุธปืนปลอมและมีดปลายแหลม สะพายกระเป่าเป้ บุกเข้าไปธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านโป่ง ถนนปากแรด อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยเข้าที่เคาน์เตอร์พนักงานพร้อมยื่นจดหมาย ระบุข้อความ ว่า “ไม่อยากตายตั้งใจอ่าน พี่ส่งเงินมามีเท่าเอามาให้หมดใส่กระเปา มันไม่ใช่เงินพี่ ถ้าผมโดนจับผมโดย ระเบิดอยู่ในกระเป๋า ผมไม่เหลืออะไรแล้ว พร้อมตายได้เสมอ ถ้าพี่ตุกติก” แต่ไปไม่รอด หลังหนักงานมีสติมุดใต้โต๊ะกดกริ่งสัญญาณเตือนไปยัง สถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านโป่ง จากนั้น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจราจรและเจ้าหน้าที่ภายธนาคารรวบตัวไว้ได้ทันถูกนำตัวส่งดำเนินคดีที่ตามกฎหมาย สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนที่มาใช้บริการจำนวนมาก

ทราบชื่อต่อมาคือ นายนฤดม นนทะโย อายุ 22 ปี ชาวจ.กำแพงเพชร โดยให้สัมภาษณ์ว่า ตนมาทำงานอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง โดยไม่ขอบอกสถานที่ทำงาน และอยู่กับภรรยาสาวและลูก ที่ตัดสินใจมาก่อเหตุเนื่องจากเกิดภาวะเครียดจากที่มีหนี้สินอยู่ราว 500,000 บาท และต้องการนำเงินมาใช้จ่าย จึงตัดสินใจที่จะหาเงินด้วยวิธีการบุกปล้นธนาคาร ซึ่งก่อนที่ตนเองจะมาก่อเหตุได้ไปดูวิธีการมาจาก YouTube ถึงวิธีการบุกเข้าปล้นธนาคาร และวิธีการประกอบระเบิด

หลังจากศึกษาเสร็จได้ไปหากระป๋องกาแฟและวิทยุสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาประกอบเป็นระเบิดปลอมบรรจุไวในกล่องกระดาษ จากนั้นได้นำใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ และนำอาวุธปืนปลอมขนาดเล็ก พร้อมด้วยอาวุธมีด พร้อมทั้งดื่มสุราย้อมใจก่อนที่จะขับขี่รถจักยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าเวฟสีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กพ 7041 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถของแฟนสาว บุกเข้าไปในธนาคาร โดนจอดรถไว้ที่บริเวณด้านหน้าจากนั้นได้เดินตรงเข้าไปที่เคาน์เตอร์ธนาคาร พร้อมทั้งยื่นจดหมายที่ระบุข้อความไว้ข้างต้น ให้กับพนักงานธนาคาร หลังจากที่พนักงานสาวคนดังกล่าวได้อ่านเกิดตกใจและมุดไปใต้โต๊ะ ซึ่งตนก็ตกใจก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายภายใน จากนั้นตนจะรีบวิ่งหนีไปที่ประตูแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน

ด้าน พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี หลังจากเกิดเหตุและได้รับรายงานได้เร่งเข้าตรวจสอบพร้อมทั้งสอบสวนผู้ต้องหาว่ามีการทำเป็นกระบวนการหรือ ก่อเหตุเพียงคนเดียว พร้อมทั้งมอบให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ก่อนจำนำตัวผู้ต้องไปชี้จุดก่อเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดี โดยกล่าวกับสื่อมวลชนสั้นว่า คดีนี้ไม่มีอะไรมาก เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพียงลำพัง ก่อนจะเดินทางกลับไป