"อธิบดีกรมป่าไม้"ระบุเร่งตรวจสอบการครอบครอบที่ดินป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ถาวรของ"ปารีณา" เตรียมนัดส.ป.ก.เข้ารังวัดและชี้แนวเขต ด้าน"ส.ป.ก."ชี้ปิดประกาศหน้าฟาร์มไก่เป็นเขตปฏิรูปที่ดินแล้ว ต้องแสดงหลักฐานสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ส.ป.ก.ใน30วัน
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการครอบครองที่ดินเนื้อที่ประมาณ 1,700 ไร่ หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่ง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าทำฟาร์มไก่ รวมทั้งได้แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไว้ด้วย ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการให้เร่งรังวัดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ทราบพิกัดว่า แปลงใดอยู่ในเขตป่าไม้และแปลงใดอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน รวมทั้งเนื้อที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานมีเท่าไร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ คณะทำงานตรวจสอบ ประกอบด้วย นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นประธาน และมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของกรมป่าไม้ รวม 13 คน เป็นกรรมการ โดยจะทำงานร่วมกับคณะทำงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งมี พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย รองเลขาธิการ ส.ป.ก.เป็นประธาน ขณะนี้คณะทำงานของกรมป่าไม้เตรียมนัดหมายคณะทำงานของ ส.ป.ก.เข้ารังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว ตามขั้นตอนจะต้องให้ผู้ครอบครองนำชี้แนวเขตด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างที่คณะกรรมการตรวจสอบการครอบครองที่ดินของรัฐ ที่มี ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธาน ส่วนกรรมการ ประกอบด้วย ป่าไม้จังหวัด , ปฏิรูปที่ดินจังหวัด และฝ่ายความมั่นคง ที่กำลังนัดหมาย น.ส.ปารีณา อีกครั้ง หลังจากที่ได้นัดหมายมาครั้งหนึ่ง ซึ่ง น.ส.ปารีณา แจ้งว่า ไม่สะดวก เนื่องจากติดประชุมอยู่ที่กรุงเทพฯ อีกทั้งต้องปิดฟาร์มเพื่อฉีดยาให้ไก่ ตามกำหนดวงรอบ 45 วัน คาดว่าจะให้เข้ารังวัดและนำชี้แนวเขตได้ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้
ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรววงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศที่ดินแปลงที่ น.ส.ปารีณา ครอบครอง อาจทับซ้อนกันระหว่างเขต ส.ป.กและเขตป่าไม้ แต่มีข้อสังเกตว่า บริเวณที่อยู่กลางเขาไม่น่าจะเป็นที่ของ ส.ป.ก.จึงสั่งการให้ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.เร่งประสานอธิบดีกรมป่าไม้เข้าตรวจสอบ
ขณะที่ แหล่งข่าวจาก ส.ป.ก.เปิดเผยว่า ปฏิรูปที่ดินจังหวัดได้ไปติดประกาศหน้าฟาร์มไก่ "เขาสนฟาร์ม" ว่า เป็นเขต ส.ป.ก.มา 3 วันแล้ว ซึ่งผู้ครอบครองต้องนำหลักฐานการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.มาแสดงภายใน 30 วัน ทั้งนี้ น.ส.ปารีณา ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่า ทางครอบครัวเข้ามาครอบครองที่ดินตั้งแต่ปี 2489 โดยไม่มีหนังสือสิทธิการเข้าทำกินใดๆ มีแต่ใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ ภบท.5 ซึ่งเป็นการแสดงถึงการเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดิน ปัจจุบันกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยกเลิกการจัดเก็บ ภบท.5 ในที่ดินของรัฐทุกประเภทแล้ว เนื่องจากเกรงว่าผู้ครอบครองจะเข้าใจผิดว่า เป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
สำหรับที่ดินบริเวณดังกล่าวเดิมเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2527 ต่อมากรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก.ในปี 2536 โดย ส.ป.ก.ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินในปี 2554 ทั้งนี้ หลังจากได้รับมอบที่จากรมป่าไม้แล้ว การที่ ส.ป.ก.จะนำเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์ต้องรังวัดที่ดิน แต่เมื่อแจ้งการเข้ารังวัด ทางครอบครัว น.ส.ปารีณา ไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงรังวัดจากแปลงโดยรอบ พบว่า เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ประมาณ 1,000 ไร่ และเป็นเขตป่าไม้ ประมาณ 700 ไร่ ดังนั้น การรังวัดใหม่ครั้งนี้จะได้ข้อมูลชัดเจนว่า ที่ดินอยู่ในเขตของ ส.ป.ก.และกรมป่าไม้ จำนวนเท่าไร อีกทั้งต้องตรวจสอบถึงการได้มาของที่ดิน ระยะเวลาที่เข้าครอบครอง หากพบว่า เข้าข่ายการยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จะสามารถดำเนินคดีได้ทั้งตามประมวลกฎหมายปฏิรูปที่ดินและการป่าไม้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี