ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด.ปฏิบัติราชการ สตม. , พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.ศุภชัย พละเดช ผกก.ตม.จว.นราธิวาส ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายต่างชาติ รายสำคัญและคดีที่น่าสนใจ ดังนี้
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 เวลาประมาณ 21.00 น.เจ้าหน้าที่ ตม.จว.นราธิวาส ชุดทำการจับกุมได้ปฏิบัติหน้าที่ประจำช่องตรวจรถจักรยานยนต์ (ขาเข้า) ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส ได้มีนายฟัจรู (Mr.FAJRU) อายุ 33 ปี สัญชาติมาเลเซีย ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน่ สีเทา-ดำ เข้ามายังช่องตรวจรถฯ ดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุม ก็แสดงอาการ มีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุมจึงได้เรียกให้หยุดรถ และได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม) ห่อด้วยถุงพลาสติกสีขาวขุ่น มัดด้วยยางเส้นรวมจำนวน 18 มัด น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,500 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะรถจักรยานยนต์ที่ผู้ถูกจับกุมขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุม ได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่เข้ามาในราชอาณาจักรปรากฏว่าผู้ถูกจับกุมไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่ามีความผิดฐาน "นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย , มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ใบพืชกระท่อม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย , เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากการสอบถามที่มาของยาเสพติด (ใบพืชกระท่อม) ดังกล่าว ผู้ถูกจับกุมให้การว่าตนได้ซื้อมาจาก นายเอยี (ทราบเพียงชื่อเล่น) สัญชาติมาเลเซีย ในราคามัดละ 10 ริงกิต (ประมาณ 73 บาท) จากฝั่งประเทศมาเลเซีย เพื่อมาส่งให้หญิงชาวไทย ทราบเพียงชื่อเล่นว่า กะนาร์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่ชุมชนดงงูเห่า อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส ในราคามัดละ 13 ริงกิต (ประมาณ 95 บาท) โดยตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาทางช่องตรวจรถจักรยานยนต์ (ขาเข้า) ด่านตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจและถูกจับกุมในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำการจับกุมได้นำตัวผู้ถูกจับกุมและของกลางมายังที่ทำการ ตม.จว.นราธิวาส เพื่อถ่ายรูป จัดทำประวัติ ทำบันทึกการจับกุม และได้นำตัวผู้ถูกจับกุมพร้อมของกลาง บันทึกชี้ยืนยันของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการอาชญากรรมตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่มีโทษทางอาญาที่เกี่ยวข้อง และให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใด พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
# ขอบคุณ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.อก.สตม. ปฏิบัติราชการรอง ผบก.ตม.1 ประสานงานส่งข่าว / พ.ต.อ.ทรงเอก พัชรวิชญ์ ผกก.ฝอ.5 และงาน ปชส.บก.อก.สตม. ข้อมูลข่าวและรูปภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี