เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่ได้พบเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่บริเวณหาดท้ายเหมือง ใกล้พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง อ. ท้ายเหมือง จ. พังงา โดยล่าสุดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ได้เคลื่อนย้ายไข่เต่ามะเฟืองไปฟักบริเวณชายหาดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาลำปี – หาดท้าย เหมือง เรียบร้อยแล้ว เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดทีมนักวิชาการ และติดตั้งระบบติดตามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงว่า ทันทีที่ได้ทราบข่าวก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ พบว่า เต่ามะเฟืองซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากและเป็นสัตว์ที่ได้ขึ้นบัญชีสัตว์ป่าสงวนขึ้นมาวางไข่ที่บริเวณชายหาดท้ายเหมือง แต่ก็รู้สึกกังวลไปในคราวเดียวกัน หากเต่ามะเฟืองได้รับการรบกวน และไข่ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการฟักตัวต่ำหรืออาจเกิดผลกระทบข้างเคียงอื่นๆได้
“ผมจึงได้เร่งสั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่งทีมนักวิชาการลงพื้นที่ทันที เพื่อวิเคราะห์และวางมาตรการดูแลเต่ามะเฟืองให้ดีที่สุด ได้กำชับทั้ง 2 หน่วยงาน ให้หาวิธีให้ประชาชนรับทราบข่าวและสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ เช่นเดียวกับกรณี น้องพะยูน มาเรียม เพราะผมทราบดีว่า หลายฝ่ายให้ความสนใจและอยากติดตาม แต่หากปล่อยให้มีการชมหรือเข้าถึงอย่างใกล้ชิด อาจจะเกิดการรบกวนหรือทำให้การฟักตัวไม่สมบูรณ์ก็เป็นได้ ผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมได้ให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับและรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่องจนกว่าการฟักตัวของไข่เต่ามะเฟืองจะครบสมบูรณ์” รมว.ทส. กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า นอกจากเต่ามะเฟืองแล้ว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญกับสัตว์ป่าสงวนรวมถึงสัตว์ทะเลหายากทุกชนิด โดยเตรียมหามาตรการและประสานความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงสร้างเครือข่ายภาคประชาชน
“ผมคิดว่า การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ผมได้ย้ำอยู่เสมอว่า ลำพังเจ้าหน้าที่ภาครัฐแม้จะทุ่มเทจนสุดกำลังความสามารถสักเท่าใดก็ไม่สามารถรักษาดูแลได้อย่างทั่วถึง คงต้องอาศัย ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมเป็นกำลังหลักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้สมบูรณ์ และคงอยู่อย่างสมดุลในธรรมชาติ ต่อไป” นายวราวุธ กล่าว
ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช(อส.) กล่าวเสริมว่า อส.ได้เตรียมพื้นที่ที่มีลักษณะทางนิเวศวิทยาที่เหมาะสมกับการฟักไข่ของเต่ามะเฟืองภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง เพื่อให้สามารถดูแลและบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ อส.ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ร่วมสนธิกำลังและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทีมประชาสัมพันธ์ภายในพื้นที่อุทยานเพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวภายในอุทยาน ทั้งนี้ เต่ามะเฟืองได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระบุว่า“ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการล่า โทษสำหรับการล่าสัตว์ป่าสงวนคือ จำคุก 3 – 15 ปี ปรับ 300,000 - 1,500,000 บาท และในกรณีครอบครอง มาตรา 17 ระบุว่าห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า โทษครอบครองคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท
ขณะที่นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(อช.) เปิดเผยในเรื่องนี้ว่าเต่ามะเฟืองตัวดังกล่าวมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ขนาดความยาว 194 ซม. ความกว้าง 173 ซม. ความยาวพายหน้าจากปลายพายข้างซ้ายไปขวา 197 ซม. โดยวางไข่รวมทั้งสิ้น 104 ฟอง เป็นไข่ดี 85 ฟอง และไข่ลม 19 ฟอง ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ. ภูเก็ต และทหารเรือจากฐานทัพเรือพังงา ร่วมกันจัดเตรียมพื้นที่จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดท้ายเหมือง เพื่อเก็บข้อมูลและเฝ้าระวังพื้นที่หลุมฟักไข่เต่ามะเฟืองตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต่อมาจึงได้ประสานแจ้งชาวประมงในพื้นที่ ประชาชน นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้ระมัดระวังการดำเนินกิจกรรมใดๆในพื้นที่รัศมี 6 กม.จากจุดที่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ ซึ่งบริเวณหาดท้ายเหมืองจะมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่เกือบทุกปี โดยเมื่อธันวาคม 2561 พบเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนชายหาดคึกคัก อ. ตะกั่วป่า จ. พังงา ห่างจากจุดนี้ไปไม่มาก ซึ่งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ในขณะนั้น)ได้เปิดศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
นายโสภณ กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้ (23พ.ย.) ตนและนายอภิชัย เอกวนากุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน นายปรารภ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติที่ 2 จ. ภูเก็ต นายอำเภอท้ายเหมือง กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน,นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท้ายเหมือง นายก อบต. นาเตย ผู้แทนบริษัททีโอทีจำกัด (มหาชน)และผู้แทนฐานทัพเรือพังงา ลงพื้นที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดท้ายเหมือง อ. ท้ายเหมือง จ. พังงา พร้อมทดสอบระบบเฝ้าระวังและติดตามเต่ามะเฟืองออนไลน์ ตามข้อสั่งการของรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบบดังกล่าวเป็นความร่วมมือของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ติดตั้งกล้องวงจรปิดรวม 6 กล้อง เพื่อถ่ายทอดภาพสดจากพื้นที่ เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ URL http://loveseaturtle.dmcr.go.th ส่งภาพ real-time ไปสู่พี่น้องประชาชนให้ได้ร่วมติดตามสถานการณ์ไปพร้อมๆ กัน โดยใช้กล้องอินฟราเรดสามารถใช้ได้ในบริเวณที่ไม่มีแสงเลยภาพกลางคืนที่ได้จะเป็นโทนสีขาวดำ เหมือนกับมีไฟส่อง โดยไม่รบกวนเต่ามะเฟืองแต่อย่างใด
“กรณีพบการวางไข่หรือร่องรอยการวางไข่ โปรดรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ทช. ที่หมายเลข 076-391128 อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้รับชมได้อย่างใกล้ชิด ผ่านการถ่ายทอดภาพสดจากพื้นที่ทางเว็บไซต์ที่เตรียมไว้ ซึ่งจะถ่ายทอดตลอด 24 ชั่วโมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกฝ่าย และขอยืนยันว่าจะดูแลเต่ามะเฟืองและไข่ให้สามารถฟักได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อจะได้ส่งลูกเต่ามะเฟืองกลับคืนสู่ธรรมชาติ อย่างปลอดภัยและสร้างสมดุลของความหลากหลายทางชีวภาพที่สมบูรณ์ต่อไป” นายโสภณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี