นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการข้าวได้ประกาศรับรองพันธุ์ข้าวสายพันธุ์ใหม่ ประจำปี 2556 ได้แก่ ข้าวพันธุ์ กข 49 โดยเป็นข้าวเจ้าพันธุ์ผสม ไม่ไวต่อแสง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 102-107 วัน ซึ่งมีความต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชีวชนิดใหม่ และเป็นข้าวคุณภาพสูงทั้งด้านกายภาพ เมล็ดยาวเรียว ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีมาก สามารถผลิตเป็นข้าวสาร 100% ชั้น 1 ที่สำคัญคือให้ผลผลิตสูงสุดถึง 939 กก./ไร่ หรือผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 733 กก./ไร่ สูงกว่าพันธุ์ชัยนาท 1 ที่ให้ผลผลิต 583 กก./ไร่ พันธุ์พิษณุโลก 1 ให้ผลผลิต 635 กก./ไร่ นอกจากนี้ ยังมีปริมาณอมิโลส 26% น้อยกว่าพันธุ์ชัยนาท 1 ที่มีอยู่ 28% ส่งผลให้ข้าวมีความนุ่มกว่า เหมาะที่จะทำเป็นข้าวนึ่งส่งออกทำตลาดต่างประเทศแทนพันธุ์ชัยนาท 1 ได้

กรมการข้าวได้เตรียมเมล็ดพันธุ์จำหน่ายไม่ต่ำกว่า 100 ตัน ให้กับเกษตรกรปลูกในฤดูต่อไป โดยแนะนำให้ปลูกในพื้นที่นาชลประทานเขตภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายของการจัดระบบการปลูกข้าวด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้าวพันธุ์ กข 49 จะมีความต้านทานต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมากที่สุดในขณะนี้ แต่ไม่เหมาะที่จะปลูกต่อเนื่อง หรือปลูกมากกว่า 2 ครั้ง/ปี เนื่องจากเป็นข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง มีอายุเฉลี่ยมากกว่า 100 วัน ที่สำคัญเมื่อปลูกข้าวพันธุ์เดิมได้ประมาณ 3 ฤดู ควรเปลี่ยนพันธุ์ เพื่อไม่ให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลปรับตัวได้ เป็นการแก้ปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดทำลายผลผลิตได้เป็นอย่างดีและยั่งยืน

นายชัยฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงแรกของการรับรองพันธุ์ข้าวใหม่ เกษตรกรจะยังขาดความมั่นใจซึ่งเป็นเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อมีการประกาศพันธุ์ข้าวใหม่ แต่อย่างไรก็ดี กรมการข้าวจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในฤดูแรก และเมื่อเห็นผล ในฤดูต่อไปจะมีเกษตรกรปลูกขยายพื้นที่อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าพันธุ์ข้าว กข 49 จะสามารถช่วยลดความสูญเสียจากปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ดีกว่าพันธุ์อื่นๆ ที่รับรองพันธุ์มาก่อนหน้านี้ แต่อยากฝากถึงพี่น้องชาวนา ไม่ว่าจะปลูกข้าวพันธุ์ใด ไม่ควรปลูกต่อเนื่องนานเกิน 3 ฤดู เพราะจะทำให้ข้าวอ่อนแอต่อโรค และผลผลิตตกต่ำ อีกทั้ง ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จากการดูแลทั้งค่าปุ๋ยและสารเคมีเพื่อให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น