เมื่อค่ำวานนี้ (5 ธันวาคม 2562) เจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราขานุสรณ์ราชบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชน 3 คันรวด มีผู้บาดเจ็บ จึงพร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง หมายเลขทะเบียน กค 7229 ราชบุรี โดยมี นายเกษม สายวิจิตร อายุ 44 ปี เป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาราชบุรี เป็นขับ สภาพรถเสียหายทั้งคัน ล้อหน้าด้านขวาขาดกระเด็ดออกจากตัวรถ ล้อหลังด้านขวายางแตก ส่วนประตูฝั่งคนขับพังยับ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กถ-264 กทม.โดยมีอดีตข้าราชการตำรวจ ลูกชายและลูกสาว วัย 8 - 10 ขวบ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ สีขาวไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ขับตามมาเบรคไม่ทันชนเข้าอย่างจังทางด้านซ้าย ตกลงข้างทางทั้งคู่ ได้รับความเสียหายไม่สามารถขับต่อได้ ส่วนคนขับถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี
ซึ่งที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราขานุสรณ์ราชบุรี พยายามพูดคุยกับนายเกษม คนขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง ที่อยู่ในสภาพคล้ายคนเมา แต่สามารถให้ข้อมูลได้ เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อทางญาติให้มาดูที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวส่งรักษาอาการบาดที่ข้อเท้าขวา พร้อมทั้งเช็คร่างกาย เนื่องจากการกระแทกในตัวรถ
จากการสอบถาม อดีตข้าราชการตำรวจ เจ้าของรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว คู่กรณี เจ้าของคลิปภาพกล้องวงจรปิดภายในรถ ที่สามารถบันทึกภาพวินาทีประสบเหตุได้ เล่าว่า ตนและลูกทั้ง 2 คน กลับจากการไปรับประทานอาหารที่ตัวเมืองราชบุรี และจะมุ่งหน้ากลับบ้านพัก โดยวิ่งบนถนนสายราชบุรี-เขางู จนมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง ของนายเกษม ที่วิ่งสวนมาก ขับพุ่งตรงมาหาตนเองและชนเข้าอย่างจังจนเสียหลัก ทำให้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่ขับตามมาเบรคไม่ทันชนเข้าอย่างจังทางด้านซ้าย ก่อนจะตกลงไปข้างทางทั้งคู่ หลังจากที่ได้สติตนรีบนำลูกทั้ง 2 คน ออกมาจากตัวรถได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากถุงลมและเข็มขัดรินภัยช่วยชีวิตเอาไว้ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ส่วน น้องผู้หญิง เจ้าของรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ สีขาว ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราขานุสรณ์ได้นำส่งโรงพยาบาลทันที โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ส่วนสาเหตุตำรวจได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดของรถยนต์คู่กรณีไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งลงบันทึกที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะเรียกผู้ขับขี่ทั้ง 3 คัน มาทำการสอบสวนเพื่อหาผู้กระทำความผิดในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยจะต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทั้งหมด หากพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็จะดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและร่างกายผู้อื่นด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี