‘ม็อบประมง’22จว.ลุกฮือ!บุกศาลากลางจี้นายกฯแก้11ข้อ ฮึ่ม16ธ.ค.ไม่เคลียร์ลุยเข้ากรุง
6 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ 22 จังหวัดชายทะเลทั่วประเทศ ได้รวมตัวเดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดในพื้นที่ เพื่อยื่น 11 ข้อเรียกร้องตามมติสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ถึงรัฐบาลเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล ชาวประมงพื้นบ้าน ชาวประมงพาณิชย์กว่า 5,000 คน เดินทางมาชุมนุม เพื่อยื่นข้อเรียกร้อง ความเดือดร้อนผ่านนายศักดา วิทยาศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ถึงรัฐบาล ใน 11 ข้อเรียกร้องตามมติสมาคมประมงแห่งประเทศไทย พร้อมกันทั้ง 22 จังหวัดชายทะเลทั่วประเทศ เพื่อให้แก้ไขกฎหมายประมงที่ชาวประมงพื้นที่ไม่สามารถทำได้จริง และหยุดการออกกฏกติกาเพิ่มเติมที่จะทำให้ชาวประมงไม่สามารถมีอาชีพต่อไปได้
นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ นายกสมาคมประมงจังหวัดสตูล ยอมรับว่า หลังยื่นข้อเรียกร้องผ่านจังหวัดสตูลถึงรัฐบาลในการแก้กฎหมายบางข้อที่ไม่สามารถให้อาชีพประมงเดินต่อไปได้ ไม่เป็นผลสัมฤทธิ์ก่อนวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ก็พร้อมจะยกพลวันละหมื่นคนขึ้นไปกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องต่อไปอีก หากรัฐบาลไม่มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือ แก้ไข หรือเหลียวแลชาวประมง และยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้เป็นเรื่องปากท้องของชาวประมง ไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องอย่างแท้จริง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาภาครัฐพยายามจะให้อาชีพประมงล้มหายตายจาก จึงไม่เคยเหลียวแล
สำหรับปัญหาต่างๆสืบเนื่องจาก 4 - 5 ปีที่ผ่านมาหน่วยงานราชการต่างๆได้ออกกฏระเบียบ ประกาศ และมาตรการต่างๆมาบังคับใช้กับชาวประมง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมง ตลอดจนห่วงโซ่ธุรกิจ จนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องเลิกอาชีพ เพราะประสบกับภาวะขาดทุนมีปัญหาหนี้สินเพิ่มขาดแรงงาน
นายสมเกียรติ ระบุว่า ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามจะแก้ไขปัญหาให้เต็มที่ แต่ขณะนี้ปัญหาต่างๆยังไม่คลี่คลายและไม่เกิดผลออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากขาดระบบราชการและการตัดสินใจต่างๆของผู้มีอำนาจ รวมทั้งยังมีการออกกฏระเบียบที่สร้างปัญหาใหม่ๆมาอีก เช่น การบังคับให้ชาวประมงชำระค่าน้ำมันผ่านระบบฟรีทการ์ด ซึ่งเป็นระบบเงินในขณะที่ภาคเกษตรอื่นๆภาครัฐกลับดูแลอย่างเต็มที่ เหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความไม่สบายใจต่อชาวประมงเป็นอย่างมาก
“สมาคมประมงจังหวัดสตูลขอเรียกร้องให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมด หยุดออกกฎหมาย กฎระเบียบประกาศตามคำสั่ง ที่จะส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของชาวประมง ขอให้เสนอแก้ไขพระราชกำหนด และขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการซื้อเรือประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว ขอให้รัฐบาลมีการตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ 2563 ในการที่จะนำเรือประมงออกนอกระบบ ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการช่วยเหลือชาวประมงในโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวประมงโดยเร่งด่วนภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้” นายสมเกียรติ กล่าว
ส่วนที่ จ.พังงา ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา นายบุญชู แพใหญ่ นายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา นำชาวประมงและผู้ประกอบกิจการด้านประมงในจังหวัดพังงากว่า 1,000 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อส่งต่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงทั่วประเทศ
นายบุญชู กล่าวว่า การชุมนุมในวันนี้เป็นการชุมนุมพร้อมกันของ 22 จังหวัดติดฝั่งทะเลทั่วประเทศ เนื่องจากผลจากการที่ภาครัฐได้ออกระเบียบ ประกาศ และมาตรการต่างๆ มาบังคับใช้กับชาวประมง ทำให้กระทบต่ออาชีพประมงและธุรกิจต่อเนื่องเป็นอย่างมาก จนผู้ประกอบการจำนวนมากต้องหยุดกิจการ เนื่องจากประสบภาวะขาดทุน มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น และขาดแคลนแรงงาน แม้ไทยจะได้รับการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปแล้ว และภาครัฐพยายามจะแก้ปัญหา แต่ปัญหาต่างๆ ก็ยังไม่คลี่คลายและไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม เนื่องจากติดขัดระบบราชการและการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ทั้งยังมีการออกกฏระเบียบที่สร้างปัญหาใหม่ๆ ขึ้นมาอีก
“การยื่นหนังสือในครั้งนี้ หากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหาให้ ชาวประมงทั่วประเทศก็พร้อมจะยกระดับการเรียกร้องร่วมกับสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ทั้งการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปร่วมชุมนุมเรียกร้อง รวมทั้งการหยุดทำประมง และหยุดดำเนินการกิจการทุกประเภท” นายบุญชู กล่าว
ที่ จ.ตราด ที่ศาลา 100 ปี หน้าศาลากลางจังหวัดตราด นายณรงค์ ชัยศิริ เลขาธิการสมาคมประมงจังหวัดตราด รักษาการนายกสมาคมประมงจังหวัดตราด พร้อมสมาชิกกว่า 500 คน นำรถยนต์กว่า 100 คัน จอดรายล้อมบริเวณหน้าศาลากลาง และหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมติดป้ายเรียกร้องขอความช่วยเหลือของรัฐบาลโดยใช้รถยนต์เป็นที่ติดตั้ง
นายณรงค์ กล่าวว่า ที่ต้องเดินทางมาครั้งนี้ เพราะหลังจากที่รัฐบาลได้ออกระเบียบต่างๆ เพื่อบังคับให้ชาวประมงต้องปฏิบัติตามแรงกดดันของต่างประเทศ ทั้งการควบคุมการนำแรงงานประมงที่ผิดกฎหมาย การกำหนดวันออกทำประมง หรือการติดตั้งเครื่องมือติดตามการทำประมง ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่างๆตามมามากมาย จนทำให้ชาวประมงจำนวนมากต้องเลิกอาชีพ ที่ประกอบอาชีพอยู่ก็ต้องประสบการขาดทุน ซึ่งวันนี้ ต้องการให้นายกรัฐมนตรีออกมาแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง เพื่อให้ชาวประมงสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
ด้าน น.ส.จันทิรา ชำปฏิ ชาวประมงรายหนึ่งที่มาร่วมเรียกร้อง กล่าวว่า มีเรือประมงอยู่ 3 ลำ แต่ออกไม่ได้ เพราะมีเรือลำหนึ่งผิดกฎหมายทำให้เรืออีก 2 ลำทำประมงไม่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำกิน วันนี้ไม่มีรายได้ ครอบครัวได้รับกระทบ ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องแรงงานและการออกทำประมง หากไม่ดำเนินการจะยิ่งเกิดผลกระทบมาขึ้นไปอีก ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาได้แต่จะเรียกร้องต่อไป
สำหรับข้อเรียกร้องชาวประมงทั้ง 11 ข้อตามมติสมาคมประมงแห่งประเทศไทย คือ
1.ขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการประมงทั้งหมดหยุดออกกฎหมาย กฏ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมง
2.ขอให้มีเสนอแก้ไขกฎหมายพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยเร่งด่วนให้ช่วงที่มีการประชุมสภานิติบัญญัตินี้
3.ขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการการซื้อรถประมงออกนอกระบบคืนโดยเร็ว โดยขอให้รัฐบาลมีการตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ 2563 ในการที่จะนำเรือประมงออกนอกระบบ
4.ขอให้รัฐบาลเร่งรัดการช่วยเหลือชาวประมงในโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับชาวประมงโดยเร่งด่วน ภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้
5.ขอให้กรมประมง กรมจัดหางาน และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการอนุญาตให้ใช้กฎหมาย มาตรา 83 แห่ง พ.ร.ก. การประมง พ.ศ. 2558 ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานประมงโดยเร่งด่วนภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้
6.ขอให้ยกเลิก แก้ไข กฏ ระเบียบต่างๆที่เป็นปัญหาในทางปฏิบัติของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่ส่งผลกระทบกับชาวประมงที่เป็นอยู่โดยเร็ว
7. เรือประมงที่มีขนาดไม่เกิน 50 ตันกรอส ไม่ควรมีนโยบายให้ติด VMS เช่น การชักชวนให้เรือประมงขนาดต่ำกว่า 30 ตันกรอส ทดลองติด VMS ฟรี
8.ขอให้หยุดการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำจากต่างประเทศโดยทันที ด้วยเหตุผลไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 มาตรา 92 ซึ่งการนำเข้าสัตว์น้ำจะต้องมีการตรวจสอบว่าสัตว์น้ำเหล่านั้นได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตามมาตรา 92 วรรคสอง และวรรคสาม สินค้าประมงจากต่างประเทศจึงเข้ามาถล่มตลาดสินค้าสัตว์น้ำของชาวประมงไทยที่ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้ต้นทุนสูงกว่า ราคาจึงตกต่ำ เพราะมีการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำแบบเสรี ไร้การควบคุม มาสต๊อกไว้เต็มห้องเย็นหมดแล้ว ดังนั้น จึงต้องแก้ไขระเบียบ กรมประมงเดิมที่อนุญาตให้บุคคลธรรมดาสามารถนำเข้าสัตว์น้ำได้เสรี มี่มาตรการปกป้องสินค้าสัตว์น้ำภายในประเทศ
9.ขอให้พิจารณาเพิ่มวันทำการประมงให้กับพี่นองชาวประมงทั้งประเทศโดยเร่งด่วน เพราะทำให้เกิดปัญหาการประกอบอาชีพขาดทุนมา 4-5 ปีแล้ว เนื่องจากมีการกำหนดให้ทำการประมงได้ไม่ทั้งปี แต่ต้องมีรายจ่ายค่าจ้างแรงงานตลอดทั้งปี
10.ขอให้คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร ทบทวนแนวทางที่จะบังคับให้บริษัทจำหน่ายน้ำมัน บังคับให้ชาวประมงต้องจ่ายเงินผ่านบัตรฟรีทการ์ด (Fleet Card) ซึ่งจะทำให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงเพิ่มขึ้นทันที
11.ขอให้มีการทบทวนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวประมงที่ถูกบังคับใช้จากกฎหมายประมงที่ไม่เป็นธรรม โดยการตั้งคณะกรรมการพิจารณาผู้ได้รับผลกระทบ
ที่ จ.เพชรบุรี กลุ่มชาวประมงจังหวัดเพชรบุรี กว่า 300 คน นำโดยนายบุญยง นิ่วบุตร นายกสมาคมชาวประมงอำเภอบ้านแหลม เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบุรี ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของชาวประมง เบื้องต้นนายณัฐวุฒิ จะนำหนังสือร้องเรียนส่งให้รัฐบาลพิจารณาตามข้อเรียกร้องของชาวประมงต่อไป
ที่ จ.สงขลา ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา(หลังเก่า) ชาวประมงและผู้ประกอบธุรกิจต่อเนื่องประมงทุกประเภทในจังหวัดสงขลา ประมาณ 500 คน เดินทางมาร่วมชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยมี นาวาเอก มารุต สัสดีพันธ์ รองผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.สงขลา) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นตัวแทนรับหนังสือจากนายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา
นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานราชการต่างๆ ได้ออก กฎ ระเบียบประกาศ และมาตรการต่างๆ มาบังคับใช้กับชาวประมง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพประมง ตลอดจนห่วงโซ่ธุรกิจฯ จนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องเลิกอาชีพ เพราะประสบกับภาวะขาดทุน มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น ขาดแรงงาน
ทั้งที่ในปัจจุบันประเทศไทยได้รับการปลดใบเหลืองจากสหภาพยุโรปไปแล้ว แม้ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามที่จะแก้ไขปัญหาให้อย่างเต็มที่ ซึ่งต้องขอขอบคุณมายังผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ปัญหาต่างๆ ก็ยังไม่คลี่คลายและก็ยังไม่เกิดผลออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากติดขัดระบบราชการและการตัดสินใจต่างๆ ของผู้มีอำนาจฯ รวมทั้งยังมีการออก กฎระเบียบ ที่สร้างปัญหาใหม่ๆ มาอีก เช่น เรื่องการจะบังคับให้ชาวประมงชำระค่าน้ำมันผ่านระบบฟรีทการ์ด ซึ่งเป็นระบบเงินสด ในขณะที่ภาคเกษตรอื่นๆ ภาครัฐกลับดูแลอย่างเต็มที่
“เหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความไม่สบายใจต่อชาวประมงเป็นอย่างมาก หากภาครัฐไม่ดำเนินการแก้ไขตามข้อเรียกร้องของชาวประมง ก็ให้รัฐซื้อเรือประมงพร้อมเครื่องยนต์ และเครื่องมือประมงไปให้หมดทั้งประเทศเพราะไม่สามารถทำการประมงได้อีกแล้ว ซึ่งหากภายในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ยังไม่มีคำตอบชาวประมงก็พร้อมที่จะเข้าไปชุมนุมกันที่กรุงเทพฯ” นายสุรเดช กล่าว
ที่ จ.ระยอง ที่ศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง กลุ่มผู้ประกอบการเรือประมงในจังหวัดระยอง ทั้งเรือประมงใหญ่และเรือประมงพื้นบ้านกว่า 1,000 คน นำโดยนายพรศักดิ์ แย้มกลิ่น นายกสมาคมประมงระยอง ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางจังหวัดระยองเรียกร้องปัญหาความเดือดร้อนการทำประมง โดยมีว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รับเรื่อง
นายพรศักดิ์ กล่าวว่า จากการประชุมเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงและต่อเนื่องประมงใน 22 จังหวัดชายทะเล เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานครที่ผ่านมา มติที่ประชุมให้องค์กรสมาชิก 22 จังหวัดชายทะเลยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศโดยมีข้อเรียกร้องรวมทั้งสิ้น 11 ข้อ
ด้านว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า เรื่องบางเรื่องการที่ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการทำประมงในพื้นที่ การตัดสินใจเป็นในรูปแบบของคณะกรรมการ ไม่กำหนดขึ้นมาเอง ส่วนเรื่องของกฎหมาย เป็นเรื่องที่เหนือกว่าที่ทางจังหวัดจะตัดสินใจได้ ซึ่งยินดีจะนำเรื่องเสนอให้รัฐบาลรับทราบ เพื่อหาทางออกและเกิดประโยชน์กับพี่น้องชาวประมงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี