วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สุดยอด!‘ไบโอเมทริกซ์’รวบอีก 9 คดีต่างชาติปลอมหนังสือเดินทาง

สุดยอด!‘ไบโอเมทริกซ์’รวบอีก 9 คดีต่างชาติปลอมหนังสือเดินทาง

วันจันทร์ ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 14.53 น.
Tag : ไบโอเมทริกซ์ สตม. ตม. ตม.2
  •  

สุดยอด!‘ไบโอเมทริกซ์’รวบอีก 9 คดีต่างชาติปลอมหนังสือเดินทาง

9 ธันวาคม 2562 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) และ พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.ตม2 ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและกวดขันจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หรือที่มีพฤติกรรมจะเข้ามากระทำความผิดทางอาญา หรือก่อความเดือดร้อนวุ่นวายให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม


ทั้งนี้  พล.ต.ต.วีรพล รับรายงานจาก พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ว่าในห้วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (กก.สส.ปป.บก.ตม.2)มีผลการจับกุมคดีสำคัญๆ จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย

รายที่ 1 เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 เวลาประมาณ 21.15 น. จับกุมชายชาวเม็กซิโกใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นเพื่อขอรับการตรวจลงตรา โดยผู้โดยสารเดินมากับเพื่อนสัญชาติเดียวกันลักษณะเป็นกรุ๊ปทัวร์ รวมทั้งสิ้น 11 คน เริ่มท่องเที่ยวตั้งแต่ประเทศเม็กซิโก มากรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย 5 วัน ก่อนจะมีกำหนดการเดินทางกลับประเทศเม็กซิโกในวันที่ 11 พ.ย.62 เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจลงตรานำหนังสือเดินทางตรวจสอบกับระบบ Biometrics ปรากฏว่าระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารมีใบหน้าตรงกับภาพในหน้าข้อมูลส่วนบุคคลเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ สารภาพกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ ว่า ต้องการมาเที่ยวทัวร์กับเพื่อนๆ แต่ไม่มีหนังสือเดินทางจึงต้องใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นในการเดินทาง เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ จึงจับกุมในข้อหา “ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน” และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 2 เมื่อวันที่ 7 พ.ย.62 เวลาประมาณ 20.30 น. จับกุมชายชาวจีน ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นเพื่อขอรับการตรวจลงตรา โดยผู้โดยสารเดินมาจากประเทศโมร็อคโคกับแฟนสาว เพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจลงตรานำหนังสือเดินทางตรวจสอบกับระบบ Biometrics ปรากฏว่าระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารมีใบหน้าตรงกับภาพในหน้าข้อมูลส่วนบุคคลเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ สารภาพกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ ว่าตนทำงานอยู่ในประเทศโมร็อคโคโดยใช้หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวซึ่งเป็นของญาติ เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปรามฯ จึงจับกุมในข้อหา“ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 3 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.62 เวลาประมาณ 18.00 น. จับกุมชายไม่ทราบชื่อสกุล และสัญชาติที่แท้จริง โดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม 2 (ชป.1) ได้ออกตรวจความเรียบร้อย บริเวณเคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสาร B10 พบว่ามีบุคคลต่างด้าวถือหนังสือเดินทางพิรุธต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง  ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทาง ซึ่งจากการสอบถามบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ยอมรับว่าตนมีความประสงค์จะเดินทาง ออกนอกราชอาณาจักรไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยสายการบิน BRITISH AIRWAYS เที่ยวบินที่  BA10 เพื่อต่อเครื่องไปยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยสายการบิน BRITISH AIRWAYS เที่ยวบินที่  BA7065 โดยได้นำถือหนังสือเดินทางประเทศอิสราเอล แสดงให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดู

เมื่อตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือเดินทางเบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากหนังสือเดินทางประเทศ อิสราเอลที่แท้จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางของปลอม (หนังสือเดินทางประเทศอิสราเอล (ปลอม)) ในการเดินทางระหว่างประเทศ” จึงได้ร่วมกันจับกุมตัว พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายที่ 4 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 เวลาประมาณ 00.30 น. จับกุมชายชาวบังคลาเทศใช้หนังสือเดินทางของประเทศแคนาดาปลอม โดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม 2 (ชป.3) ได้ออกตรวจความเรียบร้อยพบผู้โดยสารลักษณะต้องสงสัยเดินทางมาจากประเทศจีน โดยเที่ยวบิน Shanghai Airlines เที่ยวบิน FM853 กำลังจะขอรับการตรวจอนุญาตเข้าราชอาณาจักร โดยผู้โดยสารแสดงหนังสือเดินทางประเทศแคนาดาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือเดินทางเบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากหนังสือเดินทางประเทศแคนาดาที่แท้จริง

ชายคนดังกล่าวสารภาพว่าตนเป็นชาวบังคลาเทศ ได้หนังสือเดินทางปลอมมาจากนายหน้าชาวปากีสถานชื่อ นายโมฮัมหมัด โดยจ่ายเงิน 1,200,000 บังคลาเทศ หรือ 426,000 บาทไทย ให้กับนายหน้าคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางของปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศแคนาดาปลอม)” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 5 และ 6 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.62 เวลาประมาณ 20.30 น. จับกุมชายชาวโมร็อคโค 2 ราย ใช้วีซ่าสวิสปลอม เพื่อเดินทางไปประเทศสเปน โดยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ปป.บก.ตม 2 (ชป.1) ได้ออกตรวจความเรียบร้อย พบผู้โดยสารกำลังเช็คอินกับสายการบินกาตาร์ โดยผู้โดยสารแสดงหนังสือเดินทางประเทศแคนาดาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อตรวจสอบความถูกต้องของวีซ่าสวิส

เบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากวีซ่าที่แท้จริง โดยชายทั้ง 2 คน สารภาพว่า มีญาติทำงานอยู่ที่ประเทศสเปน ตนเองได้ติดต่อนายหน้าชาวโมร็อคโค ชื่อ นายนาบิล เป็นผู้ดำเนินการและเสียค่าดำเนินการเป็นเงิน 4,000 ยูโร (คิดเป็นเงินไทย 133,000 บาท) เพื่อเดินทางไปลักลอบทำงานกับญาติ  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้แผ่นปะตรวจลงตราปลอม (วีซ่าในกลุ่มประเทศยุโรป)อันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ” และนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 7  จับกุมคนต่างด้าวลักษณะคล้ายชาวจีนทราบในภายหลังคือ ชาวไต้หวัน จำนวน 1 ราย ใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย.62 เวลาประมาณ 07.10 น. จับกุมคนต่างด้าวลักษณะคล้ายชาวจีนทราบในภายหลัง คือ ชาวไต้หวันใช้หนังสือเดินทางไต้หวันปลอม เพื่อเดินทางออกไปกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมฯ (หนังสือเดินทางไต้หวัน)” โดยนำตัวชาวจีนส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 8  จับชาวจีน 1 ราย ใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.62 เวลาประมาณ 02.00 น. จับกุมชายชาวจีน  ใช้หนังสือเดินทางประเทศจีนปลอม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางของปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศจีน) ในการเดินทางระหว่างประเทศ”  โดยนำตัวชาวจีนส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

รายที่ 9 เมื่อวันที่ 27 พ.ย.62 เวลาประมาณ 17.00 น. จับกุมชายไม่ทราบชื่อสกุล และสัญชาติที่แท้จริง ใช้หนังสือเดินทางประเทศฟิลิปปินส์ปลอม เดินทางมาจากประเทศบราซิล เปลี่ยนเครื่องที่เมืองแอดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย เพื่อเข้ามายังประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือเดินทางประเทศฟิลิปปินส์เบื้องต้น พบว่ามีลักษณะแตกต่างจากหนังสือเดินทางประเทศ ที่แท้จริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับทราบว่าจะต้องถูกจับในข้อกล่าวหา “ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศฟิลิปปินส์ปลอม)” และนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ชูฉัตร เปิดเผยว่า การจับกุมการกระทำความผิดข้างต้นเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสนามบิน โดยเฉพาะการให้ความรู้แก่หน่วยงานที่เป็นเครือข่ายประชาคมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้กำหนดให้มีการประชุมประชาคมข่าวเป็นประจำทุกเดือน โดย กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 เป็นเจ้าภาพ และมีหน่วยงานต่างๆ เช่น การท่าอากาศยานหรือ AOT กลุ่มธุรกิจการบิน หรือAOC ศุลกากร ปปส. หน่วยงานตำรวจต่างๆ เช่น ตร.ท่องเที่ยว สันติบาล ตร.ปส. สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าร่วมประชุม

นอกจากนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'อว.-สตม.\'คลอด 5 มาตรการเข้มสวม\'วีซ่านักเรียน\' สกัดซ้ำรอยตึก สตง. ออกประกาศเข้มหลักสูตรสถานศึกษา 'อว.-สตม.'คลอด 5 มาตรการเข้มสวม'วีซ่านักเรียน' สกัดซ้ำรอยตึก สตง. ออกประกาศเข้มหลักสูตรสถานศึกษา
  • ตัดวงจรจีนเทา!‘สืบ ตม.’รวบขบวนการ‘รถหรู’ รับส่งคนไปชายแดน ตัดวงจรจีนเทา!‘สืบ ตม.’รวบขบวนการ‘รถหรู’ รับส่งคนไปชายแดน
  • ‘จุดตรวจช่องเม็ก’ตม.อุบลราชธานี คัดกรองเข้มตามนโยบาย ตร.-สตม. ‘จุดตรวจช่องเม็ก’ตม.อุบลราชธานี คัดกรองเข้มตามนโยบาย ตร.-สตม.
  • ‘ผบ.ตร.’แจงปมส่ง‘อุยกูร์’ให้จีน ทำไมปิดทึบรอบคันรถ ปิดบังโลโก้ ‘ผบ.ตร.’แจงปมส่ง‘อุยกูร์’ให้จีน ทำไมปิดทึบรอบคันรถ ปิดบังโลโก้
  • ด่วนที่สุด!! ยกคำร้องมูลนิธิฯ ร้องศาลอาญาไต่สวนฉุกเฉิน‘นายกฯ -ผบ.ตร.’ส่งกลับอุยกูร์ ด่วนที่สุด!! ยกคำร้องมูลนิธิฯ ร้องศาลอาญาไต่สวนฉุกเฉิน‘นายกฯ -ผบ.ตร.’ส่งกลับอุยกูร์
  • พูดเยอะไม่ได้! ‘ผบ.ตร.’แจงเป็นเรื่องความมั่นคง ปมสะพัดส่ง‘อุยกูร์’กลับจีน พูดเยอะไม่ได้! ‘ผบ.ตร.’แจงเป็นเรื่องความมั่นคง ปมสะพัดส่ง‘อุยกูร์’กลับจีน
  •  

Breaking News

‘ทางการแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว’มอบผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ไทย

กรมวิชาการเกษตร เผย'นฤมล'สั่งระงับน้ำยางข้นนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว

‘เรามีกรรมเป็นของๆ ตน เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น’

คนสวยไม่หยุดเสิร์ฟ! 'ปู ไปรยา'อวดลุคงามสง่าบนพรมแดงคานส์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved