นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงโครงการก่อสร้างสะพานคนเดินข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าพระจันทร์-ศิริราช วงเงิน 1,700 ล้านบาท โดยสำนักการโยธาว่าจ้างบริษัทศึกษาและออกแบบ งบประมาณ 50 ล้านบาท รูปแบบเป็นสะพานคนเดิน ทางจักรยาน และทางผู้พิการ ว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งยกเลิกโครงการไปเมื่อปี 2561 จะไม่มีการนำโครงการดังกล่าวขึ้นมาดำเนินการต่อ โดยพิจารณาจากการประเมินแล้วว่า ไม่มีความคุ้มค่าในการก่อสร้าง และจะเป็นการบดบังทัศนียภาพ ประกอบกับมีข้อท้วงติงว่าสะพานคนข้ามแห่งนี้อาจกลายเป็นสิ่งแปลกปลอมที่ลดคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และในปัจจุบันมีบริการเรือข้ามฝากให้บริการอยู่แล้ว

 “โครงการนี้ มีผู้เกี่ยวข้องหลายส่วน ซึ่งต่างมองว่ายังไม่มีความจำเป็นในการก่อสร้าง ซึ่งถ้าบอกว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบที่ใช้ศึกษาออกแบบไปแล้ว ก็ถือว่าใช่ เพราะกทม.ดำเนินการไปโดยลำพังไม่ได้มีการหารือกับทุกฝ่ายก่อน ทำให้หากจะเดินหน้าต่อก็จะเกิดปัญหา ประกอบกับมีการท้วงติงจากประชาชนด้วย กทม.จะไม่หยิบขึ้นมาทำต่อแน่ๆ อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีขึ้นเพื่อแก้ปัญหาจราจรก็ควรทำ แต่หากทำแล้วใช้ได้แค่คนเดินข้าม แก้ปัญหาจราจรไม่ได้ ก็ไม่ควรทำ” นายศักดิ์ชัยกล่าว

ทั้งนี้ รายงานข่าวโครงการดังกล่าว เกิดขึ้นในสมัยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร โดยมีการระบุว่าเป็นโครงการที่บรรจุอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร ช่วงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า-สะพานพระราม 3 แผนงานที่ 12 งานพัฒนาสะพานคนเดิน เพื่อเป็นสะพานคนเดิน ทางจักรยาน และทางผู้พิการ เชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยว เป็นทางเลือกในการสัญจรข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับเป็นช่องทางรับ-ส่งผู้ป่วยเข้ารพ.ศิริราชได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งสมัยผู้ว่าฯ อัศวิน ได้สั่งยกเลิกไป ขณะที่เดินหน้าโครงการพระปกเกล้าสกายปาร์ค (สะพานด้วน) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณช่องกลางสะพานพระปกเกล้า (สะพานด้วน) โดยการปรับปรุงทางสัญจรบริเวณช่องกลางสะพานพระปกเกล้าบนโครงสร้างสะพานลาวาลินเดิมที่สร้างค้างไว้ เชื่อมฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี สร้างเป็นสวนลอยฟ้าพร้อมทางเดินและมุมพักผ่อน แหล่งนันทนาการ และจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา จะดำเนินการเสร็จเดือนมีนาคม 2563 จะเป็นทางเดินส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ