เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ , พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. , พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม , พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. , เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป.พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ ชุดปฎิบัติการ 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม นายประสิทธิ์ ภาคสุข อายุ 62 ปี ชาว อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดจันทบุรีที่ 187/2553 ลง 30 เม.ย.2553 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย"
ด้วยเหตุเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2553 เวลา 20.00 น.นายประสิทธิ์ ผู้ต้องหา พร้อมพวกรวม 5 คน เป็นชาวมาเลย์ 2 คน และชาวอินเดีย 2 คน ได้ร่วมกันวางแผนกับผู้ต้องหาอีกคนชาวอินเดีย ทราบว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวอินเดียมีเงินและทรัพย์สินจำนวนมาก จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ไปรับตัวผู้เสียหายจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้อาวุธปืนบังคับผู้เสียหาย มายังสวนผลไม้ ม.14 ต.นายายอาม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นสวนของนายประสิทธิ์ โดยได้จับมัดมือไพล่ขังในกระต้อบ โดยมีผู้ต้องหากับพวกเฝ้าอยู่ 2 คน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อไปยังญาติของผู้เสียหายเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1 ล้านบาท ไม่อย่างนั้นจะฆ่าให้ตาย โดยได้ขังไว้ประมาณ 3 วัน ระหว่างนั้นผู้เสียหายขอทำทีเข้าห้องน้ำแล้วหลบหนีออกขอความช่วยเหลือ และไปแจ้งความที่ สภ.มะขาม ออกหมายจับ กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จึงได้แยกย้ายกันหลบหนีออกจากพื้นที่ ไม่ทราบว่าหลบหนีไปที่ใด
จนกระทั่งวันที่ 15 ธ.ค.62 เวลาประมาณ 20.00 น.ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ได้สืบทราบว่า นายประสิทธิ์ ผู้ต้องหา หลบหนีมาพักอาศัย อยู่ ม.7 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จึงได้เข้าทำการสืบสวน และจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.มะขาม จ.จันทบุรี ดำเนินคดี ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทำการก่อเหตุดังกล่าวจริง หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีเรื่อยมา โดยหลบมาทำสวนใน จ.เพชรบูรณ์ และจะอยู่ประมาณ 2 - 3 เดือน แล้วหลบหนีไปเรื่อยๆ ไม่มีหลักแหล่ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
จากการตรวจสอบกับทางเจ้าของคดีทราบว่า ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คน ซึ่งเป็นชาวมาเลย์ 2 คน กับชาวอินเดีย 2 คน ได้หลบหนีหมายจับดังกล่าว และยังไม่สามารถจับกุมมาดำเนินคดีได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี