เวลา 22.30 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2562 พ.ต.ท.มนัส ไชยพันธุ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.รัษฎา รับแจ้งเหตุมีคนโดนยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอู่ธวัชชัยการช่าง เลขที่ 152 ม.1 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ปรีดี นาคช่วย ผกก.สภ.รัษฎา และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง แพทย์เวรโรงพยาบาลรัษฎา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ แล้วจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตโดนยิงอยู่ภายในรถยนต์กระบะ สี่ประตู แผ่นป้ายทะเบียน กจ 6409 ตรัง ทราบชื่อผู้ตายคือ นายธวัชชัย กลับขันธ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 ม.1 ต.คลองปาง โดนยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าจำนวนหลายสิบนัด เข้าจุดสำคัญ ทั้งศีรษะ หน้าอก หน้าท้อง แผ่นหลัง เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุภายในรถ สภาพคว่ำหน้าฟุบลงไปที่ฝั่งคนขับ ประตูฝั่งคนขับมีร่องรอยกระสุนปืน จำนวน 19 รู และบริเวณโดยรอบรถยนต์ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 23 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 คน คือ นางอำภา กลับขันธ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 ม.1 ต.คลองปาง ซึ่งเป็นภรรยาผู้ตาย และ นายสมชาย สนมน้อย ซึ่งเป็นลูกจ้าง ไม่ทราบอายุและที่อยู่ ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลรัษฎา ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงรักษาตัวอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ก่อนนำศพไปโรงพยาบาล น.ส.อัมพวรรณ กลับขันธ์ ซึ่งเป็นลูกสาวของนายธวัชชัย ผู้ตาย ได้ก้มลงจูบมือพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
แนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายคือ นายธวัชชัย ได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวกลับมาจากงานศพ และจอดรถกำลังเปิดประตูเข้าบ้าน โดยมี นางอำภา กลับขัน ผู้เป็นภรรยา และ นายสมชาย สนมน้อย ลูกจ้าง นั่งมาในรถด้วยกัน 3 คน และเมื่อมาถึงหน้าบ้าน นายสมชาย ซึ่งเป็นลูกจ้าง ได้รีบไปเปิดประตูรั้วให้ ขณะนั้นได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ได้เดินเข้ามาแล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นและอาวุธปืนสงครามอาก้ากราดยิงเข้าใส่ทันที ทำให้นายธวัชชัย ที่นั่งอยู่ภายในรถถูกยิงหลาย 10 นัด จนทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนนางอำภา ภรรยา โดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ และนายสมชาย ลูกจ้าง ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งทางญาติรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลรัษฎาโดยเร่งด่วน ส่วนคนร้ายทั้ง 2 คน หลังจากก่อเหตุรีบวิ่งหนีไปตามถนนหลบหนีไปท่ามกลางความมืด
จากการสอบถาม น.ส.อัมพวรรณ กลับขันธ์ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายธวัชชัย ผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้อยู่ในบ้านกับลูก ส่วนแฟนทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงหมาเห่า เห่าแบบกรรโชก และอีกสักประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงดังกึกก้อง ตอนแรกก็คิดว่าเสียงประทัด จนแฟนวิ่งมาบอกว่าเข้าบ้านปิดประตู แล้วแฟนก็วิ่งออกมาดู ตนเองก็ขึ้นไปชั้นสอง เปิดประตูหน้าบ้านก็เห็นรถจอดอยู่และมีรอยกระสุนอยู่ที่กระจกหน้ารถ ตนเองก็วิ่งมาบอกแฟนว่า ป๋าโดนยิง แล้วก็รีบออกมาดู และมีน้องๆ วัยรุ่นขับรถผ่านมาก็ได้เข้าไป โทรแจ้ง 191 ให้ ส่วนแม่ก็ลงมาจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านสติก็ไม่อยู่กับตัว แล้วพูดว่า แม่ถูกยิง ป๋าตายแล้วๆ สักพักพอเริ่มตั้งสติได้แฟนก็ได้พาแม่และลูกจ้างไปโรงพยาบาล ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งในรถก็ได้กลับมาจากงานศพกัน 3 คน และแฟนเป็นคนเห็นว่าน้าชาย (นายสมชาย) ลงมาเปิดประตู ก็เห็นจากวงจรปิด พอยิงเสร็จคนร้ายก็วิ่งไปทางถนนไปเรื่อยจนสุดมุมกล้อง คนร้ายมาด้วยกัน 2 คน คนร้ายน่าจะมาดักรออยู่แล้วมาจากทางด้านหลัง ส่วนสาเหตุพอจะทราบแต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พยานแวดล้อมที่ตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งปลอกกระสุน ส่งไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพนายธวัชชัย ทางเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลรัษฎา เพื่อชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) เพื่อทำการผ่าชันสูตรต่อไป ส่วนสาเหตุไม่ขอเปิดเผยยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี