ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องนายตำรวจมือปราบภาคตะวันออกคนดัง “ศักดิ์รพี เพรียวพานิช” กับพวกอีก 3 คน หลังถูกฟ้องกลับมาตรา157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เจ้าตัวเผยเป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง
21 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ยกฟ้องพล.ต.ต.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช ผบก.ประจำ บช.ตชด. ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กับพวกอีก 3 คน ในคดีถูกฟ้องกลับมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบยัดเยียดข้อหาฉ้อโกงให้ 4 ผู้เสียหายที่จำหน่ายบัตรงานกิจกรรมคอนเสิร์ต
คดีนีี้ สืบเนื่องมาจากกรณีพล.ต.ต.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช ผบก.ประจำ บช.ตชด. ขณะดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.56 จับกุมสมาชิกชมรมเพื่อนช่วยเพื่อนตำรวจแห่งชาติ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายมนตรี ศรีศิลป์สำราญ 2.นายอำนาจ คงอาจหาญ 3.นายเอก เทียนทอง และ4.นางศิริรัตน์ หงส์โต โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นตำรวจ ข่มขู่และเรี่ยไร หลังกลุ่มคนดังกล่าวได้ตระเวณจำหน่ายบัตรงานกิจกรรมคอนเสิร์ตเผยแพร่ลิขสิทธิ์บทเพลงฯของชมรมฯเพื่อนำรายได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตและสนับสนุนหน่วยงานตำรวจตามที่มีหนังสือร้องขอมาทั่วประเทศ ซึ่งคดีดังกล่าวได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องส่งฟ้อง แต่สุดท้ายอัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาและไม่มีหลักฐานเพียงพอ กระทั่งสมาชิกชมรมทั้ง 4 คน ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทั้งหมด 14 นาย ประกอบด้วย
จำเลยที่ 1 พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช ผกก.สภ.แหลมฉบัง (ปัจจุบันเป็น ผบก.ประจำ บช.ตชด)
จำเลยที่ 2 พ.ต.ท.พิษณุ เพ็งเดือน รองผกก.ป.
จำเลยที่ 3 พ.ต.ท.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผกก. (สอบสวน)
จำเลยที่ 4 พ.ต.ท.อรรถพร กลั่นเรืองแสง สว.สส.
จำเลยที่ 5 ร.ต.อ.เฉลิมชัย ประสิทธิกุลไพศาล รองสว.สส.
จำเลยที่ 6 ร.ต.อ.ยุทธนา ประสพสุขมั่งดี รองสวป.
จำเลยที่ 7 ร.ต.อ.วิทยา นิตยสุข รอง สวป.
จำเลยที่ 8 ร.ต.ต.ศิริชัย ทองแสง รอง สวป.สภ.แหลมฉบัง
จำเลยที่ 9 ด.ต.สมชาย เทียนแจ่ม
จำเลยที่ 10 ด.ต.เสกสรรค์ ธรรมนิติเวช
จำเลยที่ 11 ด.ต.อานนท์ เจริญนาน
จำเลยที่ 12 ด.ต.ถนอม ศิริภูธร
จำเลยที่ 13 ส.ต.อ.ธีริทธกาจ ชุมพล
จำเลยที่ 14 ส.ต.อ.ทรงพล สุภานันท์
ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ในขณะเกิดเหตุ
โดยคดีนี้ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ทั้งสี่ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต และให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 ซึ่งศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับ 310 วรรคแรก การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดอันเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 2 ปี ข้อหาอื่นให้ยก สำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 8 ถึงที่ 14 ยกฟ้อง จำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 6 และ 7 อุทธรณ์
ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็น ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 เสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้น โจทก์ทั้งสี่ฎีกาโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงซื่อในคำพิพากษาชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 4 ที่ 6 และที่ 7 เสียด้วย โดยศาลจังหวัดพัทยา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 ที่ผ่านมาดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช ผบก.ประจำ บช.ตชด.กล่าวภายหลังรับทราบคำพิพากษาว่า ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอดและขอบคุณกระบวนการยุติธรรม ที่ให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาเพื่อรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มูลเหตุที่ตนถูกฟ้องเนื่องจากคดีที่ได้จับกุมนั้น ผู้เสียหายได้ถอนคำร้องทุกข์ จึงได้มีการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเองเป็นหัวหน้าสถานีจึงถูกฟ้องไปด้วยและทำให้ทราบและเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน ที่ได้ทำตามหน้าที่และกฏหมาย แต่ต้องมาถูกฟ้องดำเนินคดี
พล.ต.ต.ศักดิ์รพี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ต่อสู้คดี ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนต้องเสียขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมาก ตอนศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ ลูกเมียทุกคนต้องทนทุกข์เป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องและฎีกาก็ยกฟ้องด้วยเช่นกัน เท่ากับว่าตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบสุขเรียบร้อยของบ้านเมือง ได้กู้ศักดิ์ศรีคืนให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
"อยากฝากถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจ การขายบัตรคอนเสิร์ต หรือขายบัตรกิจกรรมอะไร กลุ่มใดก็ตาม ซึ่งมักจะไปขายในจุดที่ล่อแหลม เช่น สถานบริการ ผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าว ขายในจุดที่เรารู้ ๆ กันอยู่ หากมีการกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่งกายเลียนแบบ แต่งกายคล้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีการข่มขู่เพื่อให้ซื้อ นั่นคือความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เราต้องดำเนินการตรวจสอบหากพบการกระทำผิดเราต้องดำเนินการตามกฏหมาย ไม่ต้องเกรงกลัว ผมไม่เคยกลัว เพราะไม่เคยทำผิดกฎหมาย เป็น ผกก.มาก็ไม่เคยเปิดบ่อนการพนัน ไม่เคยทำตู้ม้า ไม่เคยรับประโยชน์ พอถึงเวลาเราก็ทำตรงไปตรงมาเพื่อรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง"นายตำรวจคนดังกล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี