“อธิบดีกรมป่าไม้”แจง กมธ.ป.ป.ช.ยันไม่ได้เกียร์ว่างปมที่ดินฟาร์มไก่“ปารีณา”รุกป่า เปิดไทม์ไลน์เข้าตรวจพื้นที่ แจ้งความดำเนินคดีรุกป่าสงวนใช้เวลาแค่ 9 วัน ย้ำต้องรอความเห็นกฤษฎีกาก่อนดำเนินการต่อเพื่อความสบายใจของผู้ปฏิบัติงาน ด้าน “เอ๋-ปารีณา”นั่งนิ่งฟังเรื่องตัวเองสีหน้าเรียบเฉย
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎรกรณีข้อสงสัยว่าจะดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีบุกรุกที่ดิน ตามกฎหมายใดว่า วันนี้มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้ทราบรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งในส่วนข้อเท็จจริงที่เป็นพื้นที่ของรัฐและส่วนกฎหมาย โดยกรณีกรมป่าไม้ทำเรื่องสอบถามคณะกรรมการกฤษฏีกาเกี่ยวกับการดำเนินคดีน.ส.ปารีณา บุกรุกที่ดินนั้น ได้ทำเรื่องสอบถามครบทุกประเด็น ทั้งสถานภาพพื้นที่ เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ และสำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (สปก.) ยังมีความเห็นต่างกัน ฉะนั้น การดำเนินการต่างๆ ถ้าเป็นการดำเนินการภายใต้กฎหมาย หากดำเนินการไปแล้ว แต่ไม่ได้ทำให้ชัดเจนจะเกิดปัญหา ดังนั้น เพื่อความถูกต้องต้องสอบถามกฤษฏีกา ทั้งนี้ แนวทางดำเนินการมีอยู่แล้ว แต่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติสบายใจว่าที่ดำเนินการครบถ้วนหรือไม่ ถ้าตัดสินใจแล้วไม่ครบถ้วนจะมีผลต่อการดำเนินการกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรมป่าไม้ดำเนินคดีที่ดิน 682 ไร่ของน.ส.ปารีณาได้หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ขอสงวนความเห็นไว้ก่อน แต่เรามีความเห็นแตกต่างจากสปก. ยืนยันแม้ความเห็นจะต่างกัน แต่ที่ดินได้คืนเป็นของรัฐอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหา ประเด็นอยู่ที่สถานภาพที่ดินทางกฏหมายเป็นป่าหรือไม่ และถ้าบังคับใช้กฎหมายต้องใช้กฎหมายฉบับใด และผู้ที่บังคับใช้กฎหมายคือหน่วยงานใด จะเป็นสปก. กรมป่าไม้ หรือทั้ง 2 หน่วยงาน
ถามต่อว่าหากครอบครองที่ดินมาก่อนสามารถดำเนินคดีได้หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ต้องดูว่าครอบครองตั้งแต่ช่วงเวลาใด ถ้าครอบครองแล้วส่งคืนถือว่าความผิดสำเร็จหรือไม่ ขอให้รอกฤษฎีกา ต้องเคารพให้เกียรติกฤษฎีกาตีความอย่างไร เราพร้อมดำเนินการทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายอรรถพลเข้าชี้แจงกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ปปช. เป็นประธานประชุม โดยนายอรรถพลชี้แจงว่า หลังกรมป่าไม้รับเรื่องร้องเรียน ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเห็นว่าระยะเวลาที่เข้าไปดำเนินการ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 รวมถึงการแจ้งความดำเนินคดีใช้เวลาเพียง 9 วัน ซึ่งมีพื้นที่ 2 ส่วน โดยส่วนแรกที่เราเข้าไปตรวจพิสูจน์พบว่า อยู่ในเขตป่าสงวน 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ที่ดำเนินคดีไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม และอยู่ในเขตป่าสงวนอีก 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และพื้นที่ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 54 อีก 4 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา รวมพื้นที่ 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ที่ดำเนินคดีอยู่ ส่วนอื่นที่เหลือซึ่งทำกิจการฟาร์มไก่ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ส.ป.ก. โดยเทียบจากแผนที่ ส.ป.ก.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างนายอรรถพลชี้แจง น.ส.ปารีณาเดินเข้ามาห้องประชุม และนั่งฟังกรณ๊ของตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย และไม่ตอบโต้อะไร จากนั้นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เชิญผู้สื่อข่าวออกจากห้องประชุม เพื่อพิจารณารายละเอียดต่อไป
ขณะที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้กมธ.ปปช. ยุติเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือกรณีที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้เกิดภาระแก่ กมธ. มากเกินไป หากเรื่องใดยังไม่เคยร้อง ป.ป.ช. ก็ให้กมธ. เข้าไปสอบหาข้อเท็จจริงได้ทันที เพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชน เพราะทำงานซ้ำซ้อนไม่เกิดประโยชน์
ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่าในส่วนนี้ ยังไม่ต้องปรับอะไร เพราะข้อกฎหมายระบุชัดเจนแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 วรรคสี่ว่า กมธ.จะพิจารณาข้อร้องเรียนได้ ยกเว้นการพิจารณาคดีในศาลยุติธรรม หรือองค์กรอิสระซึ่งไม่ใช่แค่ ป.ป.ช.อย่างเดียว ยังรวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน สตง.หากพบว่าคดีนี้ป.ป.ช. ดำเนินการอยู่ เราก็จะไม่เข้าไปยุ่ง หรือเชิญคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงกมธ.อีก
จากนั้นนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เสนอเพิ่มเติมว่า หากกรณีที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.ป.ช. เราควรยุติเรื่อง และส่งเรื่องกลับไป แต่กรณีป.ป.ช. รับเรื่องไป เราก็ต้องดูว่าผู้ร้องร้องเรียนเรื่องอะไร หากไปยุติเรื่องที่ไปสู่ป.ป.ช. หมดอาจไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการตัดเรื่องไปทุกเรื่อง ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวเห็นด้วยต่อความเห็นของนายธีรัจชัย ซึ่งการหารือครั้งนี้ได้ถือเป็นมติของ กมธ. และจะนำไปแจ้งผู้ร้องเรียน และป.ป.ช. เพื่อให้รับทราบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี