ขอให้สุขสมหวังทุกประการ ให้สุขภาพแข็งแรง ทำกิจการใดให้ประสบผลสำเร็จด้วยดี ไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือปกป้องคุ้มครอง มีความสุขตลอดปีและตลอดไป
ถ้อยคำอวยพรเหล่านี้ เรามักจะได้ยิน ได้รับฟังเสมอในเทศกาลปีใหม่ ผมเองขอถือโอกาสนี้ส่งความสุขความปรารถนาดีมายังทุกท่าน ตลอดจนพี่น้องเกษตรกรทุกคนด้วยเช่นกัน
ในเวลาเช่นนี้ เราคงต้องทบทวนสิ่งที่ผ่านมาในรอบปี และมองไปข้างหน้าอีก 365 วัน หรือ มองยาวๆ ไป 3 ปี 5 ปี วางแผน คิด และคาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องเกษตรกรที่การวางแผนและการคาดการณ์อาจไม่ได้ดังใจเต็มที่ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า การเกษตรของบ้านเรามีธรรมชาติเป็นหุ้นส่วนสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อความสำเร็จและความล้มเหลวในการทำการเกษตรอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ชีวิตมันก็ต้องมีความหวัง แม้ดูว่าอาจไม่สดใสชัดเจนเหมือนอาชีพอื่นที่ธรรมชาติไม่ได้มีอิทธิพลมากมายนัก แต่หากเราเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ เพราะเขาเป็นหุ้นส่วนของเรา เราก็จะสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เตรียมการป้องกันและแก้ไขแต่เนิ่นๆ ปรับตัวของเราให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ สุดท้ายเราจะสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างเป็นสุข ประกอบอาชีพการเกษตรของเราให้ประสบผลสำเร็จได้ไม่ยากเกินไปนัก
ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ภัยแล้งในช่วงต้นปี น้ำท่วมใหญ่ในภาคอีสานโรคแมลงศัตรูพืชชนิดใหม่ระบาด ราคาผลผลิตแปรปรวน หลายพื้นที่ผลผลิตเสียหายโดยสิ้นเชิง เกษตรกรคงไม่หวังแต่รอความช่วยเหลือจากสังคม แต่ต้องเริ่มจากการช่วยเหลือตนเองก่อน ร่วมมือกันในชุมชนของตน ไม่เช่นนั้นปัญหาจากภัยธรรมชาติก็จะวนเวียนอยู่เช่นนั้นตลอด ผมได้สัมผัสชีวิตพี่น้องเกษตรกรในท้องที่อำเภอบางระกำและอำเภอใกล้เคียงของจังหวัดพิษณุโลก ภายใต้ระบบการบริหารจัดการน้ำในรูปแบบของบางระกำโมเดลที่ไม่ยอมให้ธรรมชาติควบคุมวิถีชีวิต แต่ใช้ธรรมชาติมาสนับสนุนวิถีชีวิต ด้วยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งหากยังคงปลูกข้าวตามฤดูกาลเพาะปลูกปกติ พอเข้าเดือนสิงหาคมเป็นฤดูน้ำหลาก ข้าวจะถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหายทุกปี จึงมีการปรึกษาหารือกันจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีการวางแผนการปลูกข้าวกันใหม่ให้สอดคล้องกับการจัดการน้ำ และสภาพของธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนฤดูการปลูกข้าว โดยทางชลประทานจะปล่อยน้ำลงพื้นที่นาตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อให้เกษตรกรได้ลงมือปลูกข้าว พอถึงเดือนสิงหาคมก็จะสามารถเกี่ยวเกี่ยวข้าวได้พอดี ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก และพื้นที่ส่วนนี้จะกลายสภาพเป็นทุ่งรับน้ำจากภาคเหนือ ชะลอการไหลบ่าของน้ำลงไปจากลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ช่วงระยะ 3-4 เดือน ที่เป็นทุ่งรับน้ำ เกษตรกรในพื้นที่จะทำการประมงเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ได้อีกทาง สิ่งเหล่านี้ คือ ความร่วมมือระหว่างกัน เป็นการปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างมีความสุข
ผมได้แต่ภาวนาว่าปีใหม่นี้ ความร่วมมือดีๆ เช่นนี้ จะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายพื้นที่ดำเนินการไปกว้างขวางมากขึ้น เพราะผมเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่าปัจจัยหลายๆ อย่าง ที่จะส่งผลต่อความสำเร็จของการประกอบอาชีพการเกษตร ภายใต้การดูแลของภาครัฐเช่นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นอย่างไร เพราะข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เอง หรืออีกหลายหน่วย ก็เห็นว่าประสบภัยกันอยู่ ภัยธรรมชาติทางการเมือง!!
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี