สตม.ยัน‘ไบโอเมทริกซ์’มีมาตรฐาน ซัดอย่าโยงแค้นส่วนตัว สร้างความชอบธรรมตัวเอง
9 มกราคม 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม.กล่าวอ้างระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลไบโอเมทริกซ์ไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จับคนร้ายได้เพราะฝีมือตำรวจนั้น ว่า ยืนยันว่าระบบนี้สามารถใช้งานได้จริง ไม่ทราบว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอาข้อมูลมาจากไหนว่าระบบไบโอเมทริกซ์ไม่สามารถใช้งานได้จริง ทั้งที่เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง ถือเป็นระบบมาตรฐานสากลที่สนามบินนานาชาติขนาดใหญ่นิยมใช้กัน เช่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น นอกจากนี้ ที่ผ่านมาสามารถจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำผิด หรือมีประวัติที่พยายามหลบหนีเข้าประเทศไทยได้จำนวนมาก
“การนำระบบนี้มาใช้มีความคุ้มค่า ช่วยสร้างความเชื่อมั่นใจได้ว่าประเทศไทยมีระบบคัดกรองที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นผู้อนุมัติโครงการ เพื่อยกระดับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาชาติ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผมมองว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ควรนำเรื่องระบบไบโอเมทริกซ์ไปเชื่อมโยงกับความขัดแย้งส่วนตัว และไม่ควรใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือให้ตัวเองเกิดความชอบธรรม” พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม.กล่าวว่า ตนได้รับการแต่งตั้งเป็นรองประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในระหว่างดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งตนไม่ใช่คนเก่งคนดัง แต่เข้ามาเป็นคนกลาง ไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับใครทั้งนั้น หลายคนอาจมองว่าตนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจกับ พล.ต.ท.สมพงษ์ แต่ยืนยันว่าด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี ตนไม่ไปทำอะไรนอกลู่นอกทาง ทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง
“โครงการไบโอเมทริกซ์เริ่มทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 11 กรกฏาคม 2560 มีกำหนดส่งงาน 6 งวด ระหว่างผมมาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการ อยู่ในงวดที่ 3 พบว่ามีปัญหาความล่าช้า ผมพร้อมจะชี้แจงกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพราะทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีเอกสารพร้อม ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นำเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวมาเชื่อมโยงกับระบบไบโอเมทริกซ์ เนื่องจาก ผบ.ตร.เป็นผู้อนุมัติโครงการ” พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 กล่าวว่า ในฐานะผู้ปฏิบัติงานที่ควบคุมดูแลท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย เดิมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนเข้าเมืองได้เพียงดูด้วยตาเปล่ากับภาพถ่ายโดยอาศัยทักษะของเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ปัจจุบันระบบไบโอเมทริกซ์ถูกนำมาช่วยในการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ ทำให้การตรวจสอบบุคคลมีความแม่นยำ เพราะมีฐานข้อมูลบุคคลต้องสงสัย หรือบุคคลต้องห้าม จนสามารถคัดกรองบุคคลเข้าออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี