วันที่ 15 มกราคม 2563 เวลา 08.00 น. ที่บริเวณสนามหญ้ากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีบุคลากรทางการศึกษา ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการตรวจสอบภายใน และ กลุ่มเทคโนโลนีสารสนเทศ(ไอซีที) ประมาณ 500 คน แต่งกายด้วยชุดดำ พร้อมมีป้ายข้อความคัดค้านไม่ยุบ ไม่ย้าย กรณี สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีหนังสือเลขที่ ศธ. 02137/ 220 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2563 ไปถึงเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อ ขอข้อมูลเกี่ยวกับอัตราตำแหน่ง งบประจำอัตรา งบบุคลากร ค่าจ้างประจำและเงินอื่นๆที่เกี่ยวข้องของข้าราชการครูและบุคลางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศ ตำแหน่งนักวิชาการตรวจสอบภายใน จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อจะนำข้อมูลนี้ไปขอความเห็นชอบในที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เพื่อให้ไปปฏิบัติงาน ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
ด้านนายวิชัย ปานอุทัย ผู้อำนวยการตรวจสอบภายใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 5 ในฐาประธานชมรมตรวจสอบภายใน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2563 ตนและคณะได้มายื่นหนังสือคัดค้านเรื่องดังกล่าว กับเลขาธิการคณะกรรมการกกาศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้ว แต่ในวันที่ 7 ม.ค. 2563 ทางสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังมีหนังสือขอข้อมูลนี้ไปถึง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงทำให้พวกเราคือ กลุ่มศึกษานิเทศ กลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มเทคโนโลนีสารสนเทศ(ไอซีที) เกิดความไม่มั่นใจและเกิดความเดือดร้อน จึงได้นัดเดินทางรวมตัวที่ศธ.ในวันนี้ เพื่อชี้แจงกับนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) และผู้บังคับบัญชา ว่า คำสั่งย้ายพวกตนไปปฏิบัติงานที่ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนั้น เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจ เพราะการที่พวกเราทั้ง 3 กลุ่มอยู่ที่เขตพื้นที่การศึกษา จะคอยช่วยเหลือสนับสนุนการเรียนการสอนให้กับครูและโรงเรียนได้ และหากมีการย้ายจากที่เราเคยอยู่ที่เขตพื่นที่ในตัวอำเภอ ก็จะต้องถูกย้ายไปอยู่ร่วมกันที่จังหวัด ซึ่งใน จ.เชียงใหม่ มีเขตพื้นที่ฯที่อยู่ไกลจังหวัดมากที่สุดถึง 178 กิโลเมตร ก็จะทำให้เขาเหล่านั้นต้องเดินทางเข้ามาทำงานในตัวจังหวัด
ดังนั้น คำสั่งนี้สร้างความเดือนร้อนให้แก่ครู โรงเรียน รวมถึงพวกเราเป็นอย่างมาก เพราะแทนที่ศึกษานิเทศก์จะอยู่ใกล้กับโรงเรียนเพื่อคอยส่งเสริมช่วยเหลือครูเวลามีปัญหา หรือเวลาจัดสอบโอเน็ต เอ็นที ก็จะช่วยเหลือได้ ถ้าไม่มีศึกษานิเทศก์เวลาครูมีปัญหาในการจัดการเรียนการสอนครูก็ขาดความมั่นใจไม่มีศึกษานิดทศก์คอยให้คำปรึกษาในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา หรือหน่วนตรวจสอบภายใน ก็ทำหน้าที่ช่วยแนะนำผลการดำเนินงานต่าง ๆ กรณีการเบิกจ่ายมีปัญหา แต่การย้ายพวกเราไปอยู่ศึกษาธิการจังหวัด ให้ไปทำหน้าที่ตรวจสอบทั้งกระทรวงศึกษา ซึ่งผิดกฏหมาย ถามว่าผมสังกัด สพฐ.จะให้ไปตรวจสอบายในของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้อย่างไร วันนี้พวกเราจึงต้องมายื่นหนังสือขอคัดค้านต่อ รมว.ศธ. ปลัดศธ. และเลขาธิการ กพฐ. ซึ่งก็มีตัวแทนมารับเรื่องไว้ เนื่องจาก รมว.ศธ. เดินทางไปราชการต่างประเทศ และหลังจากนี้ พวกเราก็จะไปยื่นหนังสือคัดค้านที่สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ด้วย
“หลังจากที่ยื่นหนังสือคัดค้านในวันนี้แล้ว พวกเราก็จะรอฟังผลว่าจะเป็นอย่างไร หากยังไม่มีการดำเนินการ ในเช้าวันที่ 17 ม.ค.นี้ พวกเราทั้งผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา และพี่น้องทุกกลุ่มงานในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งครู ผู้บริหารโรงเรียน ประมาณ 3,000 คน จะเดินทางมารับฟังคำตอบที่กระทรวงศึกษาธิการ” นายวิชัย กล่าว
ขณะที่นายธนชน มุทาภร ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1 ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การย้ายกลุ่มงานศึกษานิเทศก์ กลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มเทคโนโลนีสารสนเทศ(ไอซีที) ไปอยู่ในศึกษาธิการจังหวัด เพื่อไปทำหน้าประสารงาน ตรวจสอบ แต่ไม่ได้ทำหน้าที่นิเทศก์ให้คำแนะะนำครู ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนให้มีความเข้มแข็งเหมือนกับอยู่ในเขตพื้นที่ ซึ่งขบวนการนิเทศก์เป็นส่วนสำคัญต่อการเรียนการสอน การติดตามการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครู ส่วนหน่วยตรวจสอบก็มีหน้าที่ตรวจสอบและสร้างความเข้มแข็งให้กับโรงเรียน และโดยระเบียบฝ่ายตรวจสอบไม่สามารถตรวจสอบข้ามเขต ข้ามหน่วยงานได้ ส่วนลุม ไอซีที ก็ต้องรับผิดชอบโครงการพระราชดำริ คือการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งร้อยละ 70 ของโรงเรียนใช้ระบบ DLTV เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ดังนั้น หากย้ายกลุ่มนี้ไปอยู่ที่ศึกษาธิการจํงหวัด ก็เท่ากับทำลายคุณภาพการศึกษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี