ตรวจDNAกระดูก

ในบ่อน้ำบ้านไอซ์

เทียบกับแม่เด็ก12

สางคดีฆ่าอำพราง

แพทย์เร่งสกัดดีเอ็นเอกระดูก 326 ชิ้น ที่พบในบ่อน้ำบ้าน“ไอซ์ หีบเหล็ก” ก่อนเปรียบเทียบกับญาติ คาดเป็นเด็กหญิงวัย 12 ปีที่หายตัวไป ชี้ไม่น่ากระทำเพียงคนเดียว เร่งถกข้อมูลเตรียมงมหากระดูกเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่กำลังตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.ดส.บช.น.) ตำรวจ สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจค้นบ้านพักในซอยเพชรเกษม 47 เขตบางแค กทม.ของนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือไอซ์ อายุ 40 ปี เจ้าของฉายา “ไอซ์ หีบเหล็ก” ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติด อาวุธปืน และซ่อนเร้นอำพรางศพ น.ส.วรินทร์ธรณ์ ไชยเชษฐ์ หรือกุ๊กกิ๊ก อายุ 22 ปี ภายหลังพบศพถูกฝังดินไว้ รวมทั้งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการพบโครงกระดูกมนุษย์กว่า 326 ชิ้น ซึ่งถูกห่อผ้าถ่วงน้ำทิ้งในบ่อน้ำใกล้บ้านพักดังกล่าว ว่าขณะนี้ทางสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ได้เร่งสกัดดีเอ็นเอชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมด

มีรายงานข่าวว่าสำหรับขั้นตอนการดำเนินการของทางสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช จะมีการสกัดดีเอ็นเอกระดูกทั้ง 326 ชิ้น เพื่อตรวจสอบว่าเป็นโครงกระดูกของบุคคลเพียงคนเดียว หรือมากกว่า 1 คน พร้อมทั้งคัดแยกว่ากระดูกบางชิ้นนั้นเกิดจากการแตกหักหรือไม่ จากนั้นจึงจะนำผลตรวจที่ได้ไปเปรียบเทียบกับญาติของเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ญาติได้แจ้งความคนหาย ไว้เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา โดยมารดาของเด็กหญิงรายนี้ได้เข้าพบตำรวจเพื่อให้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่พบแล้ว

ทั้งนี้ ทางญาติระบุว่าเด็กหญิงวัย 12 ปี รายนี้ อาศัยอยู่ที่ย่านตลิ่งชัน กทม.มีส่วนสูงประมาณ 150 เซนติเมตร น้ำหนัก 40 กิโลกรัม รูปร่างผอม ผมยาวประบ่า ผิวสองสี ซึ่งตำรวจมีภาพของเด็กหญิงคนนี้แล้ว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการอำพรางศพนั้นเป็นไปได้ยากที่จะกระทำเพียงลำพังคนเดียว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาอื่นกับนายอภิชัย ยังคงต้องรอผลตรวจจากแพทย์ให้มีความชัดเจนเสียก่อน จึงดำเนินการได้ แต่ขณะนี้นายอภิชัย ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และซ่อนเร้นอำพรางศพ ไปแล้ว ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาชิ้นส่วนโครงกระดูกเพิ่มเติมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการประชุมเพื่อวางแนวทางให้เกิดความละเอียดและรอบคอบที่สุด