วันที่ 21 มกราคม 2563 คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนว่ากอ.รมน.- ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ” แจ้งความจับแจ้งความจับนายสุนทร วิลาวัลย์ นักการเมืองชื่อดัง ใน จ.ปราจีนบุรี กับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ บุตรสาวของนายสุนทร จากกรณีแผ้วถางป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ต่อมามีผู้นำเอกสารสิทธิ ในที่ดินดังกล่าวมาแสดง โดยพบว่าเป็นของนักการเมืองคนสำคัญของจังหวัดปราจีนบุรี และมีการระบุในข่าวว่าที่ผ่านมามีการยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินการแล้ว แต่เรื่องเงียบหายไปนั้น
ขอชี้แจงมายังสาธารณชนว่า พื้นที่ตามที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นคนละพื้นที่กับที่ดีเอสไอดำเนินคดี และในส่วนที่ดีเอสไอรับผิดชอบ มีการดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องครอบคลุม ทั้งส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชน จึงเป็นการปฏิบัติงานที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่า เมื่อปี2554 หลังมีประชาชนมายื่นเรื่องต่อดีเอสไอ ขอให้ตรวจสอบกรณีนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดปราจีนบุรี มีพฤติการณ์ยึดถือครอบครองที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยออกเอกสารสิทธิครอบคลุมพื้นที่ป่าโดยมิชอบ ในเขตพื้นที่ตำบลโพธิ์งาม อำเภอประจันต
คาม จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ประมาณ 251 ไร่
ภายหลังรับเรื่องดังกล่าว ดีเอสไอได้รับเรื่องไว้สืบสวน เป็นสำนวนสืบสวนที่ 189/2554 และคณะกรรมการคดีพิเศษได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.55 ให้รับเป็นคดีพิเศษที่ 149/2555 จากการสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องอยู่ในข่ายเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาในการออกเอกสารสิทธิดังกล่าว จึงส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงาน ป.ป.ท. ดำเนินการตามกฎหมาย และดีเอสไอได้สืบสวนขยายผลกรณีเอกชนบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยต่อมารับเป็นคดีพิเศษที่ 136/2558 และรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมที่จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
ปรากฏว่าได้มี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกาศใช้ ทำให้เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการทั้งหมดเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. รวมทั้งเรื่องที่เป็นของสำนักงาน ป.ป.ท.อยู่แต่เดิมด้วยและมาตรา 30 วรรค2 ของกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำนาจไต่สวนคดีความผิดทางอาญาอื่นที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกันและต้องดำเนินการไปในคราวเดียวกันกับเรื่องที่เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังนั้น ดีเอสไอจึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 136/2558 ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายใหม่ และจำหน่ายคดีจากสารบบ
ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวคืนมายังดีเอสไอ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าสามารถแยกเรื่องเพื่อดำเนินการได้ ดีเอสไอจึงรับเรื่องไว้สอบสวนใหม่ เป็นคดีพิเศษที่ 2/2562 และทำการสอบสวน บัดนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2548 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และประมวลกฎหมายที่ดิน 12 คน คดีอยู่ระหว่างสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอผู้บังคับบัญชา
การนำเสนอข่าวดังกล่าวจึงมีความคลาดเคลื่อน และทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ดีเอสไอจึงชี้แจงข้อเท็จจริงมาเพื่อทราบ และขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวพาดพิงการปฏิบัติงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานก่อนนำเสนอข่าว เพื่อลดโอกาสที่ทำให้สังคมเกิดความสับสน และได้รับข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง อันอาจส่งผลกระทบต่อหน่วยงานได้ จึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี