TPIเฉียบคิดค้นผลิตภัณฑ์
ทำลาย‘ไวรัสRNA’กลุ่ม4
กลุ่มเชื้อเดียวกับโคโรนา
แก้ปัญหาโรคปากเท้าเปื่อย
ทดลองกับวัว-สุกรได้ผล
เมื่อวันที่ 30 มกราคม รศ.พญ.ยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี เปิดเผยถึงโครงการวิจัยการนำผลิตภัณฑ์ปรับปรุงคุณภาพดิน“ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 (TPI Super Calcium PH12)” ไปทดลองใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อย (Foot and MountDecease) ในสัตว์เท้ากีบ เช่น โคและสุกร ว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากการไปพบงานวิจัยที่ว่าด้วยการแยก(Contaminated) ดีเอ็นเอ ไวรัส (DNA Virus) ออกจากอาร์เอ็นเอ ไวรัส (RNA Virus) ในกระบวนการของห้องทดลองด้วยวิธีอัลคาไลน์ ไฮโดรไลซิส (Alkaline Hydrolysis) เพื่อฆ่าเชื้ออาร์เอ็นเอไวรัส
จึงคิดต่อไปว่าอาร์เอ็นเอไวรัสอาจถูกทำลายได้ด้วยสารที่มีความเป็นด่างสูง ซึ่งเวลานั้นก็มีผลิตภัณฑ์ ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 อยู่พอดีจึงนำมาทดลองเพื่อพิสูจน์สมมติฐานดังกล่าว ด้วยการนำไปใช้กับสัตว์ที่มีโรคผิวหนัง แล้วพบว่าสัตว์เหล่านั้นอาการดีขึ้น จึงเข้าใจว่าสภาพที่เป็นด่างน่าจะทำให้อาร์เอ็นเอไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์หลายชนิดที่สามารถเป็นโรคนี้ได้ เช่น โค สุกร หายไป ดังนั้นจึงมีการนำผลิตภัณฑ์ ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 ไปโรยตามพื้นที่เป็นคอกโคหรือเล้าสุกร
รศ.พญ.ยุวดี กล่าวต่อไปว่า อาร์เอ็นเอไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์ อยู่ในกลุ่มเดียวกับเชื้อโคโรนาไวรัส (Coronavirus) ดังนั้นในเบื้องต้นสามารถใช้ในเชิงการรักษาสุขอนามัย (Sanitation) พื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ที่เกี่ยวกับมนุษย์ยังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากไม่สามารถให้สารด่างเข้าไปในร่างกายมนุษย์ได้โดยตรง แต่อาจใช้ได้เฉพาะการรักษาบาดแผลผิวหนังภายนอก
ขณะที่ นายสันธาน ชัยพันธ์วิริยาพร รองผู้จัดการใหญ่ (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ปรับปรุงคุณภาพดิน ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 ได้นำไปทดลองใช้แก้ไขปัญหาการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ อาทิ ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงโคที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ต้องเผชิญกับโรคดังกล่าวบ่อยครั้ง
โดยโรคปากเท้าเปื่อยเกิดจากอาร์เอ็นเอไวรัสชนิดหนึ่งในกลุ่มที่ 4 ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับเชื้อโคโรนาไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในจีนและอีกหลายประเทศขณะนี้ หลังทดลองใช้งานจริงเกษตรกรเป็นเวลา 2 ปี พบว่าสามารถยับยั้งการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยจากเชื้อดังกล่าวได้ สำหรับวิธีการใช้คือแบบผงฉีดพ่นไปตามพื้นคอก บาดแผลของสัตว์ที่ติดเชื้อ รวมถึงซากสัตว์ที่ติดเชื้อแล้วล้มตาย อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะใช้กับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ได้หรือไม่ เพราะเป็นเชื้อชนิดใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน
“ไวรัสมันแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือดีเอ็นเอไวรัสกับอาร์เอ็นเอไวรัส แล้วก็จะมีกลุ่มย่อย ดีเอ็นเอไวรัสมีกลุ่มที่ 1 ที่ 2 ที่ 7 มันก็จะมีรหัสของมัน อาร์เอ็นเอไวรัสก็เหมือนกัน มีกลุ่มที่ 3-6 เพียงแต่ว่าในกลุ่มย่อยนั้นมันจะก่อโรคอะไรบ้าง อย่างโรคปากเท้าก็อยู่ในกลุ่ม 4 เรายับยั้งได้ เห็นผลได้ตามที่เอกสารทดลองและตามที่ไปทดลองให้เกษตรกรใช้ ส่วนโคโรนาก็เป็นไวรัสอยู่กลุ่ม 4 เหมือนกัน แต่จะตอบถึงขั้นนั้นก็ไม่กล้าตอบ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่จีน ยังไม่มีใครเคยเจอ” นายสันธาน กล่าว
ด้าน ผศ.น.สพ.ดร.ชาญณรงค์ รอดคำ อาจารย์ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหนึ่งในคณะผู้วิจัย กล่าวเสริมว่า เชื้อไวรัสไม่ว่าจะเป็นดีเอ็นเอไวรัสหรืออาร์เอ็นเอไวรัสล้วนไม่ชอบความเป็นด่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ปรับปรุงคุณภาพดิน ทีพีไอ ซูเปอร์แคลเซียม พีเอช12 มีความเป็นด่างสูงมากยิ่งกว่าปูนขาว ดังนั้นเมื่อนำไปโรยบนพื้นคอกแล้วทิ้งไว้ประมาณ 60 นาทีขึ้นไปก็จะสามารถกำจัดไวรัสได้
ทั้งนี้จากการที่ตนได้รับทราบจากเกษตรกรที่นำไปทดลองใช้ พบว่า เกษตรกรนำไปใช้โรยบริเวณกีบเท้าของสัตว์ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคปากเท้าเปื่อย พบว่าสามารถใช้ได้โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์แต่อย่างใด คาดว่าคงเป็นเพราะหนังสัตว์ค่อนข้างหนา อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในทางทฤษฎี ก็แนะนำว่าควรจะเจือจางก่อนใช้ดีกว่า โดยเฉพาะหากใช้กับแผลบริเวณเยื่อบุอ่อนหรือตามช่องปาก ซึ่งฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อก็ยังมีอยู่
สำหรับคณะผู้วิจัยโครงการทดสอบผลิตภัณฑ์ของบริษัททีพีไอในการฆ่าเชื้อไวรัสที่ก่อโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบข้างต้น ประกอบด้วย 1.ศ.(กิตติคุณ) ดร.ประกิตติ์สิน สีหนนทน์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2.ศ.(กิตติคุณ)ดร.โสภณ เริงสำราญ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 3.ผศ.น.สพ.ดร.ชาญณรงค์ รอดคำ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 4.รศ.พญ.ยุวดี เลี่ยวไพรัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี