ปภ.เตือน25จว.
รับมืออากาศแปรปรวน
ฝนถล่ม-ลมแรง9-13กพ.
ปภ.เตือน 25 จังหวัดทั่วไทย เตรียมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน ฝนถล่ม-ลมกระโชกแรง 9-13 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ลดลง ค่าต่ำกว่ามาตรฐานทุกเขต อากาศดี ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้ติดตามสภาพอากาศและตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ความกดอากาศสูงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ขณะที่กระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น
กอปภ.ก. จึงได้ประสานจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์วาตภัย ฝนฟ้าคะนอง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 9 -13 กุมภาพันธ์นี้ แยกเป็น พื้นที่เฝ้าระวังวาตภัยและฝนฟ้าคะนอง ได้แก่ ภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ได้แก่ ภาคใต้ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
“ขณะนี้ กอปภ.ก. ได้ประสานจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเตรียมพร้อมป้องกัน รับมือ และลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัย โดยกำชับให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย ระวังอันตรายจากลมกระโชกแรง ฝนฟ้าคะนอง พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการถูกล้มทับ” อธิบดีปภ. กล่าว
นายมณฑล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล จัดเตรียมเครื่องมือประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งาน อีกทั้งกำชับสถานประกอบการในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (pm2.5) นั้น นายมณฑล เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้ ปภ.ร่วมกับจังหวัดขับเคลื่อนวาระแห่งชาติของรัฐบาล “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” มุ่งดำเนินงานในระยะเร่งด่วนตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ เน้นย้ำการควบคุมมลพิษในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นละออง โดยให้ระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่วิกฤติ รวมถึงประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครใช้กลไกการจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) แก้ปัญหาในช่วงวิกฤตตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
ขณะที่ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานครรายงานว่า สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ณ เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 20-43 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน50 มคก./ลบ.ม.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ท้องฟ้าโปร่ง
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานครเช้าวันนี้ คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก-ดี ประชาชนสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งและการท่องเที่ยวได้ตามปกติ ส่วนพื้นที่ที่คุณภาพอากาศปานกลาง ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร ยังคงติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถประสานงานและดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที แม้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ในเกณฑ์ค่ามาตรฐาน 50 สำนักงานเขต ยังคงดำเนินการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า ฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตรวจสภาพเครื่องยนต์ตามระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด ดูแลบำรุงรักษารถยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนได้มีการกำชับพนักงานขับรถยนต์ให้ดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ปฏิบัติงานหรือจอดรถรอรับ-ส่ง
นอกจากนี้ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพรถไม่ให้ปล่อยควันดำ งดเผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสภาพแวดล้อมที่ดีและลดมลพิษในอากาศ
ทั้งนี้ กทม.ได้เพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์ เพื่อแจ้งเตือนและเน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ www.bangkokairquality.com www.airqangkok.com Facebook : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม www.prbangkok.com Facebook : สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. หรือแอปพลิเคชัน กทม. Connect
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี