สาวลาวซุกยาบ้าส่งเอเย่นต์ไทย ไม่รอดโดน‘ตม.เลย-สภ.เชียงคาน’ซุ่มจับ          

9 กุมภาพันธ์ 2563 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4) , พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ ผกก.สภ.เชียงคาน , พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จว.เลย  , พ.ต.ท.กันตพจน์ แจ่มปรางค์ทอง รอง ผกก.ตม.จว.เลย , พ.ต.ท.ปัญจมานนท์ เมฆเลื่อม สว.ตม.จว.เลย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.เลย ร่วมกับ สภ.เชียงคาน ทำการจับกุมนางพะเยา ทะวิวง อายุ 30 ปี ราษฎรบ้านตม เมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุลี สปป.ลาว พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,420 เม็ด , โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ที่บริเวณลานจอดรถภายในโรงพยาบาลเชียงคาน ท้องที่บ้านเชียงคาน หมู่ 1 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่สืบทราบจากสายลับว่าจะมีราษฎรเป็นหญิงชาวต่างด้าว สัญชาติลาว อายุประมาณ 25- 30  ปี จะนำยาบ้ามาส่งให้กับผู้ค้ายาบ้าที่บริเวณภายในโรงพยาบาลเชียงคาน โดยหญิงคนดังกล่าวจะนำยาบ้าไปวางไว้ที่กระถางต้นไม้ด้านหน้าภายในบริเวณโรงพยาบาลเชียงคาน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้บูรณาการกำลังเพื่อวางแผนทำการจับกุม

ต่อมาเวลาประมาณ  14.00  น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เจ้าหน้าที่ตรวจพบหญิงชาวลาว ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งข่าว จึงได้ซุ่มดูพฤติการณ์ของหญิงคนดังกล่าวตลอดเวลา โดยสังเกตเห็นหญิงคนดังกล่าวได้เอามือทั้ง 2 ข้าง ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแขนยาวทั้ง 2 ข้างอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่เห็นผิดสังเกตและดูลักษณะรูปพรรณหญิงคนดังกล่าวแล้ว มีลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งข่าว จึงได้ออกจากจุดซุ่มแจ้งชุดจับกุม และได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย 

จากการตรวจสอบทราบชื่อสกุลจริงว่า นางพะเยา ทะวิวง อายุ  30  ปี เป็นราษฎรบ้านตม เมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุลี  สปป.ลาว เดินทางเข้ารับการตรวจเข้ามาในราชอาณาจักรไทยที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองถาวรมิตรภาพไทย- ลาวแม่น้ำเหือง อ.ท่าลี่ พบว่าผ่านการตรวจอนุญาตถูกต้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจค้นตัวเบื้องต้น พบยาบ้าจำนวนดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวนเบื้องต้นนางพะเยา รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากผู้ค้ายาบ้าชาวลาวด้วยกัน ให้นำยาบ้ามาส่งให้กับผู้ค้ายาบ้าที่ฝั่งไทยภายในโรงพยาบาลเชียงคาน โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงินไทย จำนวน 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด โดยผู้ว่าจ้างจะโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ที่จะมารับยาบ้าเอง แล้วจะโทรศัพท์มาบอกตนให้นำยาบ้าไปส่งกับผู้มารับยาบ้า ตามที่นัดหมายกันไว้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาตรวจพบและถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนางพะเยา พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงคาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป