เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และหน่วยงานในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อร่วมกันหารือถึงแนวทางการผลักดันให้จันทบุรีเป็นเมืองแห่งยุทธศาสตร์มหานครผลไม้ มีอุตสาหกรรมอัญมณีและอุตสาหกรรมประมงที่เข้มแข็ง ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นายวิทูรัช ศรีนาม ผวจ.จันทบุรี ให้ข้อมูลว่า วิสัยทัศน์ของ จ.จันทบุรี ต้องการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าสินค้าเกษตรคุณภาพ ศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ การเป็นเมืองท่องเที่ยวนิเวศชุมชน และประตูการค้าชายแดนสู่ประชาคมอาเซียนโดยจันทบุรีเป็นจังหวัดที่มีต้นทุนทางภูมิประเทศสูง จึงประสบความสำเร็จทั้งการประมง ทำอัญมณี รังนก และส่งออกสินค้าเกษตรจนได้รับฉายา “มหานครแห่งผลไม้” ซึ่งตลาดที่เติบโตส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการมี “ล้งจีน” โจทย์สำคัญของจังหวัดคือการพัฒนาที่ยั่งยืนและแก้ปัญหาในมิติต่างๆ
ขณะที่ ศ.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า คณะกรรมการประสงค์ที่จะผลักดันองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และสินค้าเกษตรของ จ.จันทบุรี ให้มีมูลค่าสูงขึ้น อาทิ เพิ่มมูลค่าให้มังคุดเกรด 2 เป็นต้น โดยจะร่วมกันทำงานกับกระทรวง อว. และเชื่อมโยงการทำงานกับพื้นที่ เพื่อเป้าหมายหลักคือ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้นครอบครัวละ 10,000 บาทต่อเดือน พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนฐานราก ภายในระยะเวลา 6 เดือน
“คณะกรรมาธิการฯ จะเชื่อมโยงหน่วยงานวิจัย มหาวิทยาลัย ส่วนราชการ จังหวัด ให้ทำงานอย่างบูรณาการกัน สำหรับในส่วนของผลไม้ต้องใช้นวัตกรรมมาช่วย 1.คุณภาพผลผลิต 2.เครื่องมือและเทคโนโลยีลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน 3.เพิ่มมูลค่าให้ส่วนอื่นๆ ของผลไม้ เช่น เปลือกมังคุด เปลือกทุเรียน 4.จัดการระบบพันธสัญญา/ระบบล้ง 5.สร้างการรวมกลุ่มของเกษตรกรที่มีศักยภาพ และ 6.หนุนเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวมถึงจัดเวทีเสวนาทางวิชาการ เพื่อให้เกิดการถ่ายเทข้อมูลความรู้ด้านผลไม้ ไปสู่เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จริง” ศ.กนก กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.สุดสวาสดิ์ ดวงศรีไสย์ รองผู้อำนวยการภารกิจส่งเสริมระบบการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ สกสว. กล่าวเสริมว่า แนวทางการทำงานของ สกสว. ตอนนี้คือ การสร้างระบบที่รวบรวมข้อมูล และสังเคราะห์ข้อมูลความรู้ ส่งต่อผู้ใช้ประโยชน์ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้คณะทำงาน ได้ข้อมูลสำคัญเพื่อใช้ขับเคลื่อนงานต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี