เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 1/2563 โดยมีหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ มูลนิธิต่างๆ และอาสาสมัคร ร่วมประชุมพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายเสริมประสิทธิภาพการสร้างความปลอดภัยทางถนนที่เน้นการพัฒนากลไกการจัดการด้านบุคลากรและข้อมูล การจัดทำแผนบูรณาการลดอุบัติเหตุทางถนนที่สอดคล้องกับปัจจัยเสี่ยงอย่างรอบด้าน อีกทั้งบังคับใช้กฎหมายควบคุมความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด พร้อมใช้มาตรการทางสังคมควบคู่กับการสื่อสารเชิงรุกสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนในระยะยาว นอกจากนี้ ได้ร่วมกันพิจารณา (ร่าง) แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2563 เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2563
นายนิพนธ์ กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนคร่าชีวิตคนไทยเป็นจำนวนมากก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ รัฐบาลได้กำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายสำคัญ โดยมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) บูรณาการทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างจริงจังและต่อเนื่องทั้งช่วงปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ มุ่งเสริมสร้างประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในมิติเชิงพื้นที่ โดยการประชุมฯ ในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนน ทั้งการพัฒนากลไกการจัดการด้านบุคลากรและด้านข้อมูล โดยเฉพาะการดำเนินการสอบสวนและวิเคราะห์อุบัติเหตุทางถนนที่มีผู้เสียชีวิตทุกกรณี เพื่อนำไปจัดทำแผนบูรณาการลดอุบัติเหตุทางถนนที่สอดคล้องกับปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ตัดหน้ากระชั้นชิดและไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย พร้อมพัฒนาการดำเนินงานด้านการวิเคราะห์และสอบสวนกรณีอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตให้มีประสิทธิภาพ และทบทวนมาตรการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาอย่างรอบด้าน เพื่อให้การดำเนินงานสร้างความปลอดภัยทางถนนมีความต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งให้มีการเข้มงวดมาตรการทางกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งรัดให้มีการนำระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับรถมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เน้นการควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว เมาแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงการตรวจใบอนุญาตขับรถ พร้อมใช้มาตรการทางสังคมควบคู่กับการสื่อสารเชิงรุกสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนในระยะยาว ตลอดจนวิเคราะห์สาเหตุอุบัติเหตุทางถนนในเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนและดำเนินการแก้ไขให้มีความปลอดภัย เพื่อให้การเดินทางในทุกเส้นทางปลอดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน
รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม ศปถ.ยังได้พิจารณาร่างแผนการสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2563 "แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2563" ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" ซึ่งกำหนดให้ใช้กลไกของพื้นที่เป็นตัวขับเคลื่อนการบูรณาการในลักษณะยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area Approach) พร้อมเตรียมกำหนด 8 มาตรการสำคัญป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ ด้านการบริหารจัดการ ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ ด้านมาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ ด้านความปลอดภัยทางน้ำ ด้านดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และมาตรการพิเศษ ที่มุ่งดำเนินการในอำเภอเสี่ยงสีแดงอย่างเข้มข้น โดยแบ่งแนวทางการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง แยกเป็น ช่วงการเตรียมพร้อมและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ วันที่ 15 ก.พ. - 9 เม.ย.63 และช่วงควบคุมเข้มข้น วันที่ 10 - 16 เม.ย.63
"ศปถ.ได้กำหนดแนวทางการประสานการปฏิบัติเชื่อมโยงส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอย่างใกล้ชิด ผ่านกลไกความร่วมมือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มุ่งดำเนินมาตรการลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งคน ถนน ยานพาหนะ และสภาพแวดล้อม เพื่อสร้างการสัญจรปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2563 ให้มีความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล" นายนิพนธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี