ตำรวจภาค 5 ทหาร ศป.ปส.ชน.ปปส. แถลงจับหัวหน้าแก๊งเปิดรับเหมาก่อสร้างบังหน้า “ค้ายา” ยึดไอซ์ 50 กก. ยาบ้ากว่า 3 ล้านเม็ด ตัวบงการหนีซุกเขตเมียนมา พร้อมประสานทหารไล่ล่า
20 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ จิระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 , นายมานิต โกเม ผอ.ปปส.ภ.5 , พ.อ.สันติ สุขป้อม รอง ผบ.พล.ร.7 (1) ในฐานะ รอง.ผอ. ศป.ปส.ชน. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยสามารถยึดของกลางเป็นยาบ้าได้ทั้งหมด 2,322,000 เม็ด และไอซ์ หนัก 50 กิโลกรัม พร้อมกับรถยนต์อีกจำนวน 3 คัน
พฤติกรรมของการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2555 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัว นายธนาวุฒิ วิชิตพัฒนเดชา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225/2 หมู่ที่ 8 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านคาร์แคร์ล้างรถในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 400 เม็ด ในพื้นที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ หลังจากพ้นโทษออกมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในพฤติกรรมของ นายธนาวุฒิ อย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่า ยังคงมีพฤติการณ์เรื่อง การจัดหาและลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 – 15 ก.พ. 2563 ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบความเคลื่อนไหวว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ จึงได้นำกำลังเพื่อสะกดรอยติดตามกลุ่มผู้กระทำความผิด กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 03.10 น.ของวันที่ 15 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 5 ได้ร่วมกันทำการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ได้จำนวน 2,322,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 50 กิโลกรัม ที่ผู้กระทำความผิดได้นำมาพักรอคอยการส่งมอบให้แก่กลุ่มผู้ลำเลียง แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน และตัวผู้กระทำความผิดหลบหนีไปได้
จากแนวทางการสืบสวนได้ตรวจพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวนายธนาวุฒิ หรือบอย วิชิตพัฒนาเดชา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับที่ จ.66/2563 ลง 17 ก.พ.2563 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า, ยาไอซ์) โดยมีปริมาณแอมเฟตามีนหรืออนุพันธุ์แอมเฟตามีน คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่ายี่สิบกรัมขึ้นไป ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ต่อมา วันที่ 17 ก.พ. 2563 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม นายธนาวุฒิฯ ตามหมายจับ ได้ที่ด่านตรวจผาหงษ์ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ โดยในชั้นจับกุม นายธนาวุฒิฯ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้ทำการตรวจยึด รถยนต์ จำนวน 2 คัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ตาม พ.ร.บ.มาตรการยึดทรัพย์ต่อไป
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลในเชิงลึก เพื่อหาความเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ก็พบหลักฐานการเชื่อมโยงไปถึงตัว นายภาคิน พรเดชา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 1 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง พื้นเพเดิมเป็นคนอำเภอแม่แตง แต่ย้ายมาอยู่อำเภอแม่ริม เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลดังกล่าวว่า นายภาคิน เป็นนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง และเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างบังหน้า จึงได้ติดตามเพื่อจะจับกุมตัว แต่นายภาคิน ได้ไหวตัวทันและหลบหนีไป
ขณะนี้ทางศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.69/2563 ลง 19 ก.พ.2563 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม นายภาคิน โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวให้ประสานกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย เมียนมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อตัดทำลายเครือข่ายและดำเนินมาตรการตามกฎหมายในการตัดทำลายแหล่งเงินทุนของผู้กระทำผิดต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 กล่าวว่า จากการทำงานของเจ้าหน้าที่สามารถจังกุมยาบ้าจำนวนดังกล่าวได้ และได้มีการขยายผลพบว่าเป็นของนายภาคิน ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และได้มีความสนิทกับนายธนาวุฒิ จึงได้สั่งการให้ นายธนาวุฒิเป็นคนลำเลียงยาเสพติดให้ และทางตำรวจได้ติดตามจับกุม นายธนาวุฒิ ส่วนตัวนายภาคิน ได้ไหวตัวทันและหลบหนีไปได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีหมายจับและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนจับกุม
“นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ติดตามขยายผลยึดทรัพย์ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งคาดว่าอาจมีการโยกย้ายทรัพย์สินเพื่อทำการฟอกเงิน ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนติดตามยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรของขบวนการยาเสพติดเหล่านี้ต่อไป” ผบช.ภ.5 กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี