กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม จับมือทดลองผลการวิจัยสารสกัด"สารแอนโดรกราโฟไลด์"จาก"ฟ้าทะลายโจร"เพื่อเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ใช้อาสา10คน คาด1เดือนรู้ผลผลิตเป็นยาใช้ได้

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม แถลงข่าวว่า วันนี้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการวิจัยยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร กับไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัส ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม

จากการศึกษาการจับกันของโมเลกุลยากับเชื้อไวรัสโควิด-19 จากโครงสร้าง 3 มิติ ของยาและเชื้อ (Moleculardocking) พบว่าการนำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาสกัดให้ได้ "สารแอนโดรกราโฟไลด์" (Andrographolide) ในปริมาณความเข้มข้นสูง น่าจะมีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรนาไวรัสเข้าสู่เซลล์ (Entry inhibitor) และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรนาไวรัสได้ (Viral replication inhibitor) ซึ่งหากผลการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ได้ผลสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ทางกรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะทำการประสานทางกรมการแพทย์เพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษายับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป รวมทั้งประสานองค์การเภสัชกรรมให้เร่งดำเนินการผลิตและวางแผนรองรับให้เพียงพอต่อการใช้

ทั้งนี้ โครงการศึกษาวิจัยได้เสนอผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ จะมีการทดลองกับคนที่มีร่างกายแข็งแรงจำนวน 10 คน เป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจะอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในห้องปฏิบัติตลอดระยะเวลาการทดลอง หากปรากฏผลการวิจัยทดลองมั่นใจว่ามีฤทธิ์ต้านไวรัสโควิด-19 ได้ผลจริง ก็จะผลิตเพื่อนำมาใช้ร่วมในการรักษาด้วย ซึ่งปกติสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนั้น เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ใช้รักษาอาการไข้ ไอ เจ็บคอ แต่หากใช้มากเกินไปก็มีผลข้างเคียงทำให้ร่างกายหนาว สั่นสะท้านได้ แต่ยานี้ปกติจะออกฤทธิ์ภายใน 24 - 48 ชั่วโมง ดังนั้น หากถ้าอาการไข้ยังไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์แผนปัจจุบันทันที สำหรับข้อกำหนดวิธีรับประทานปัจจุบันแก้ไข้จะกินวันละ 16 เม็ด แต่การผลิตนี้จะสกัดให้ได้สารแอนโดรกราโฟไลด์ ที่กินวันละ 3 เม็ดเท่านั้น