ณ ห้องประชุมวัดศรีเทพประดิษฐาราม ถนนศรีเทพ เขตเทศบาลเมืองนครพนม พระครูปลัดสุภีพัฒน์ สุเมโธ เจ้าคณะอำเภอเมืองฯ พระครูสุธีวีรวงศ์ รองเจ้าอาวาสวัดศรีเทพฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ขณะที่ประธานโครงการบูรณะวัดศรีเทพฯ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2/สส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทยมอบหมายให้ ผศ.ดร.ธนบวร ศิริคุณากรกูลผู้ช่วยเลขานุการ และที่ปรึกษารองประธานสภาฯ นายอารมณ์ เวียงด้าน อดีต สว.นครพนม เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม พร้อมกับ นายนิวัต เจียวิริยบุญญานายกเทศมนตรีเมืองนครพนมนายพิศิษฐ์ ปิติพัฒน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ผศ.เมธาชูจันทร์ อดียนายอำเภอนาแก นายธนิตศักดิ์อุ่นตา วัฒนธรรมจังหวัดฯ นายอรรถสิทธิ์(คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต สส.นครพนม 7 สมัย นายณรงค์ ไชยตา ฯลฯ และคณะทำงานตลอดจนชาวชุมชนวัดศรีเทพฯร่วมประชุม
โดยนายณัฐสิทธิ์ วงศ์ตลาดผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม ให้ตัวแทนสำนักพุทธศาสนารายงานขั้นตอนต่างๆ ในการขับเคลื่อนการยกระดับวัดราษฎร์ขึ้นเป็นวัดอารามหลวง และเรื่องงบประมาณ ซึ่งจะให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม นี้
ระเบียบการขอวัดพระอารามหลวงมีดังนี้ 1.เป็นวัดที่เป็นหลักฐาน โดยมีเสนาสนะถาวร หรือมีปูชนียวัตถุที่เป็นโบราณวัตถุหรือศิลปะวัตถุ 2.เป็นวัดที่มีความปกครองเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่เป็นหลักฐาน (รร.พระปริยัติธรรม) 3.เป็นวัดที่มีการพัฒนาและมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน 4.มีพระสงฆ์ จำพรรษาตั้งแต่ 20 รูปขึ้นไปติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี จนถึงปีปัจจุบัน 5.เป็นวัดสำคัญของท้องถิ่น หรือเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของทางราชการเป็นประจำ หรือเป็นวัดที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และ 6.วัดต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป
ที่ประชุมได้มีมติให้ยกระดับวัดศรีเทพฯขึ้นเป็นวัดอารามหลวง ทางด้านวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม จะเปิดเวทีเสวนาเตรียมปรับปรุงภูมิทัศน์ สิ่งก่อสร้าง ภายในวัด ด้านฝ่ายพระสงฆ์ตระเตรียมโรงเรียนปริยัติธรรม โดยมีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย สุวรรณมาโจ) ว่าจะปรับปรุง ซ่อมแซม หรือก่อสร้างใหม่ และต้องทำประชาคม หรือแสดงความคิดเห็นของชุมชน ทั้งชาวชุมชนศรีเทพท่า และชุมชนศรีเทพทุ่ง ว่าต้องการแนวทางไหน
การผลักดันวัดศรีเทพประดิษฐารามขึ้นเป็นพระอารามหลวง สืบเนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่ประจำจังหวัดนครพนมอีกแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า เดิมชื่อวัดศรีคุณเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2402 โดยเจ้าเมืองทองทิพย์ มังคละคีรี สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติ โดยมีหลวงปู่จันทร์ เขมิโย หรือพระเทพสิทธาจารย์ผู้เป็นองค์ปฐมกำเนิดการศึกษาแผนใหม่ ทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายธรรมของจังหวัดนครพนม ซึ่งมีรายนามเจ้าอาวาสปรากฏหลักฐานจนถึงปัจจุบันมี 4 รูป คือ1.พระเทพสิทธาจารย์ (หลวงปู่จันทร์เขมิโย) 2.พระราชวุทธาจารย์ (พรหมมาโชตติโก) 3.พระครูอุทัยธรรมโสภณ (ประณตธรรมฉันโท) และ 4.พระศรีวิสุทธินายก (โดม ปัญฺญาธโร ป.ธ.9)
ด้านหลังอุโบสถมีศิลปะ ประติมากรรมประดับฝาพนังมีความวิจิตรตระการตามีสถาปัตยกรรมเจดีย์บรรจุอิฐิหลวงปู่จันทร์ด้านในอุโบสถ มีพระประธานปางมารวิชัยศิลปะล้านช้างที่ศักดิ์สิทธิ์คือพระแสง (มีประวัติบันทึกว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยเดียวกับพระเสริม พระสุก และพระใสที่จังหวัดหนองคาย) ส่วนทางด้านทิศเหนือเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์หลวงปู่จันทร์ ซึ่งชาวจังหวัดนครพนมทุกเชื้อชาติให้ความเลื่อมใส ขอพรกราบไหว้เป็นประจำ
โดยหลวงปู่จันทร์ เป็นชาวอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม เกิดเมื่อปีพ.ศ.2424 มีนามเดิมว่า “จันทร์ สุวรรณมาโจ” บรรพชาเป็นสามเณรตอนอายุ 10 ขวบ มีพระอาจารย์รูปแรกที่สอนคัมภีร์โบราณ การเขียนจารเป็นอักษรขอม และอักษรธรรม คือพระอาจารย์เคน อุตฺตโม จากนั้นได้ไปศึกษากรรมฐานกับพระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2445 ได้รับฉายาว่า “เขมิโย” ในปีเดียวกันนี่เองพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ได้เดินทางผ่านมาถึงจังหวัดนครพนม ปักกลด ปฏิบัติธรรมอยู่ภายใต้ต้นโพธิ์ตอนใต้ของเมืองนครพนม พระภิกษุจันทร์จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์และติดตาม
พระอาจารย์ไปที่จังหวัดอุบลฯ
กระทั่งปี 2449 พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ เจ้าเมืองนครพนม ได้ไปนิมนต์พระภิกษุจันทร์กลับมาปกครองวัดศรีคุณเมือง (วัดศรีเทพประดิษฐาราม)และได้ใช้ความรู้ความสามารถ พัฒนา วัดศรีคุณเมืองให้เจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาซึ่งแต่ก่อนวัดศรีคุณเมืองเป็นวัดว่างเปล่าไม่มีพระสงฆ์อยู่อาศัย สภาพโดยทั่วไปจึงรกร้าง เสนาสนะและพระอุโบสถทรุดโทรม โดยหลวงปู่จันทร์ ได้ทำหน้าที่บริหารงานคณะสงฆ์ อุทิศชีวิตเพื่อพิทักษ์ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ท่านจึงได้ตั้งโรงเรียนสอนภาษาไทยแผนใหม่ ขึ้นที่วัดศรีเทพฯ พร้อมทั้งได้เปิดสอนปริยัติธรรมทั้งแผนกนักธรรม แผนกธรรมศึกษาและแผนกบาลี กระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์2516 ท่านละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชรารวมสิริอายุ 92 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี