วันที่ 2 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวศิริรัตน์ สมหวัง, นางสาวสอน ศรีบุญเรือง และนางสุวรรณ บูรณะ ชาวบ้านกอก หมู่ที่ 2 ตำบลลุ่มระวี อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ว่า ได้รับความเดือดร้อนถูกตำรวจนายหนึ่งเรียกรับเงิน 10,000 บาทเพื่อปิดคดี โดยแจ้งว่านางสาวศิริรัตน์ และนางสาวสอน ไปขโมยไก่ของนายวัฒนศักดิ์ สมหวัง ทั้งที่นางสุวรรณ ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของนายวัฒนศักดิ์ เป็นผู้เห็นไก่ตายที่สวนข้างบ้านโดยไม่รู้ว่าเป็นไก่ใครก็เลยเรียกนางนางศิริรัตน์ และนางสาวสอน เอาไปทำกิน ขณะที่กำลังถอนขนไก่นายวัฒนศักดิ์ ได้มาเจอเลยอ้างเป็นไก่ตัวเองเลยไปแจ้งตำรวจ สภ.จอมพระ
ต่อมานางสาวศิริรัตน์ และนางสาวสอน ได้จ่ายเงินให้นายวัฒนศักดิ์ เป็นเงิน 2,000 บาทแล้ว ซึ่งนายวัฒนศักดิ์ ได้รับไว้แล้ว ซึ่งทางตำรวจคนดังกล่าวได้เรียกเข้าไปคุยอีกครั้งพร้อมกับพูดว่าช่วยดูแลตำรวจด้วย 10,000 บาทถึงจะยอมปิดคดีไม่เอาเรื่องถึงศาล พร้อมกับพูดว่าเงินแค่นี้ไม่มากเกินไปหรอกตำรวจกล่าว ซึ่งชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจเดือดร้อนที่จะต้องหาเงินจำนวนนี้ไปให้ตำรวจและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องเรียนผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์เพื่อหาหนทางแก้ไขต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 2 ตำบลลุ่มระวี อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบกับนางสาวสอน ศรีบุญเรือง อายุ 61 ปี และนางสาวศิริรัตน์ สมหวัง อายุ 33 ปี ผู้ร้องเรียน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมกับหารือและวางแผนร่วมกับผู้นำหมู่บ้านเพื่อวางแผนที่จะนำเงิน 10,000 หมื่นบาทไปให้กับตำรวจคนดังกล่าว ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในคดีลักไก่เพื่อปิดคดี โดยเมื่อเวลา 12.00 น.ผู้ร้องเรียนทั้ง 2 ได้เดินทางไปที่ สภ.จอมพระ เพื่อพบกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี "คดีลักไก่" ซึ่งมีนายวัฒนศักดิ์ เจ้าของไก่เป็นผู้ติดต่อและประสานงานพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวได้ขอเปลี่ยนสถานที่นัดรับเงินเป็นบริเวณหน้าโรงเรียนจอมพระประชาสรรค์แทน ซึ่งทีมข่าวได้แอบติดตามอยู่ห่างๆ
ต่อมาได้มีรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กต 1493 สุรินทร์ ขับเข้ามาจอดหลังรถยนต์ของผู้ร้องเรียน พร้อมกับลดกระจกพูดคุยพร้อมขอบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งภายในมีพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีลักไก่ ขับมาเพียงคนเดียว ในขณะที่เจรจาต่อรองเพื่อจะขอรับเงินหนึ่งหมื่นบาท เกิดไหวตัวเนื่องจากเห็นรถผู้สื่อข่าวที่ขับตามมาอยู่ห่างๆ จึงบอกว่าไม่เอาเงินแล้ว พร้อมกับขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พาผู้ร้องเรียนและคณะกรรมการหมู่บ้านฯ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.จอมพระ เพื่อเล่ามูลสายปลายเหตุ และข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ฟัง ในฐานะผู้บังคับบัญชา ก่อนแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ท.เทิดชัย สายแสงจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.จอมพระว่า ตำรวจคนดังกล่าว ยศ "ร.ต.อ." เรียกรับเงินจำนวน 10, 000 บาท เพื่อแลกกับการปิดคดีลักไก่ตามที่ "ร.ต.อ." ดังกล่าวรับแจ้งและเป็นพนักงานสอบสวนในคดีที่นายวัฒนศักดิ์ เป็นผู้แจ้งและมีพฤติการณ์ข่มขู่กรรโชคทรัพย์ ซึ่ง พ.ต.ท.เทิดชัย สายแสงจันทร์ พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ เลขที่คดี 0056 เล่มที่ 0004/2563 ข้อที่ 4 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2563 เวลา 15.47 นาที เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งจะมีการเรียกสอบปากคำผู้เสียหายในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) เวลา 10.00 น.ซึ่งจะมีการรอบรวมพยานหลักฐานจากการสอบข้อเท็จจริงทุกฝ่ายเพื่อนำส่ง ปปท.และ ปปช.ต่อไป เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่รับประโยชน์ตอบแทนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.จอมพระ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องจากสื่อมวลชนที่พาชาวบ้านเข้ามาพบร้องทุกข์กรณีดังกล่าว ซึ่งขณะเกิดเหตุตนได้ลาพักร้อนหลังจากทราบเรื่องทั้งหมดจากผู้เสียหายแล้วจะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่ผู้เสียหายทั้งสองรายแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องที่เกิดขึ้นจะพยายามให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดตามที่ชาวบ้านร้องให้ดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี