ศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น COLA KKU พร้อมส่งเสริมวิชาการที่เป็นเลิศด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเสริมสร้างความยั่งยืนในประเทศไทย โดยในระหว่างวันที่ 28-29 กุมภาพันธ์ 2563 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีSTeP มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ ได้นำคณะทำงาน ออกบูธเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หลักสูตรที่ได้พัฒนาขึ้น พร้อมสำรวจความต้องการในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ บริษัทพัฒนาเมืองผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไป ในงาน Block Mountain 2020 งานบล็อกเชนและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ จำนวนกว่า 500 คน พร้อมขึ้นเวทีบรรยาย Smart City แนวทางการพัฒนาเมืองขอนแก่น และนำเสนอ ห้องย่อย ถึงโครงการวิจัย เรื่อง “การวางแผนกลยุทธ์ในการนำนโยบายการพัฒนาตามแนวทางเมืองอัจฉริยะไปสู่การปฏิบัติ : การถอดบทเรียน การประเมิน การตรวจสอบความตรงและการพัฒนาข้อเสนอแนะ” ตามที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ให้ดำเนินการ ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมายคือ ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต
สำหรับงาน Block Mountain CNX 2020 นั้นสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และบริษัท สยามดีแอพ (ประเทศไทย) ได้ร่วมมือกัน จัดงานขึ้น พร้อมเปิดให้มีการบรรยายจาก Guru Speaker ชั้นแนวหน้าของไทย โดยกิจกรรมภายในงาน มีกิจกรรมที่หลากหลาย เนื้อหามุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี และบล็อกเชนที่เข้มข้น ตามเนื้อหาหลักของงานคือ Digital Disruption, Blockchain & Digital Asset และ Smart City Zone ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีจากทั้ง 3 ภาคส่วน เช่น กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล การรับมือเมื่อต้องเจอกับภัยไซเบอร์ บล็อกเชนกับการนำไปประยุกต์ใช้ Digital Disruption และเทรนด์เทคโนโลยีปี 2020 การปูพื้นฐานความรู้เบื้องต้น ไปจนถึงการเจาะลึก วิเคราะห์ การเทรด และการประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดธุรกิจทางด้านบล็อกเชน นิทรรศการและการบรรยายจาก Smart Cityแนวทางการพัฒนาเมืองด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ได้รับความร่วมมือจาก 12 บริษัทชั้นนำของไทย ทดลองใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนผ่านแอพพลิเคชั่น Om Wallet
รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ เปิดเผยว่า “ขอนแก่นสมาร์ทซิตี้” มีความชัดเจนยิ่งขึ้น จากหลักการขับเคลื่อนเมืองด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะพลิกโฉมเมืองขอนแก่น ควบคู่ไปการพัฒนาระบบรางและการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเมืองอย่างยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำว่า ที่ จ.ขอนแก่น ได้เลือก Smart Mobility ในการเป็นตัวชูโรงเพื่อเปลี่ยนเมืองสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยอาศัยการพัฒนาที่ต่อยอดมาจากระบบขนส่งมวลชนทางราง LRT เป็นแผนการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นแนวคิดการพัฒนาเชิงกายภาพ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และ traffic การใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดระดับสากล แต่ในประเทศไทยยังไม่มี TOD ที่ชัดเจนให้เห็น และ จ.ขอนแก่น อาจจะเป็นเมืองแรกที่ทำได้สำเร็จ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ยิ่งไปกว่านั้น ข้อดีของการพัฒนาแบบนี้ก็คือ สามารถพัฒนาให้เกิด เมืองครบครัน(Compact City) ได้ง่าย อีกทั้งยังไม่ต้องกระจายงบประมาณการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย
ศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ เป็นหน่วยงานภายในสังกัดวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเภทหน่วยงานที่จัดตั้งตามภารกิจเฉพาะหรือตามยุทธศาสตร์ มุ่งพัฒนาองค์ความรู้ด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และด้านการจัดการภาครัฐดิจิทัล ของประเทศไทย ให้บริการวิชาการและฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และการจัดการภาครัฐดิจิทัล และเป็นศูนย์การทดสอบเทคโนโลยีและแนวความคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City Testbed: SCT) ก่อนนำไปสู่การปฏิบัติและขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองจริง ยิ่งไปกว่านั้น ศูนย์ปฏิบัติการและส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับเมือง จังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และแนวทางการจัดหาทุนดำเนินการพัฒนาเมือง
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี