งามหน้า!บุกจับหน้าโรงพัก‘ร.ต.อ.’ร่วม4ตำรวจบ้าน อุ้มเหยื่อรีดเงิน ปลดทรัพย์แลกอิสรภาพ
8 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชลบุรี ว่า ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ได้เข้าจับกุมแก๊งตำรวจพัทยาอุ้มรีดไถ เพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพ ประกอบด้วย ตำรวจยศ ร.ต.อ. ระดับรอง สวป.สภ.เมืองพัทยา 1 นาย และตำรวจอาสาอีก 4 คน โดยมีพฤติกรรมอุ้มเหยื่อที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวพันกับยาเสพติด แล้วนำไปรีดไถในบ้านหลังหนึ่งภายในซอยเทพประสิทธิ์ ก่อนปลดทรัพย์สินและเงินสดแล้วปล่อยตัว หลังจากเหยื่อถูกปล่อยตัว ได้เข้าไปร้องเรียนกับตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และเข้าจับกุมได้ในที่สุด โดยแก๊งตำรวจพัทยาที่ก่อเหตุถูกออกหมายจับและส่งดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหาซ่องโจร กักขังหน่วงเหนี่ยว และกรรโชกทรัพย์ ศาลพัทยาคัดค้านการประกันตัว
ด้าน พล.ต.ต.ประการ ประจง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) เปิดเผยว่า แก๊งผู้ต้องหาดังกล่าว ประกอบด้วย ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ปลอดโปร่ง รอง สวป. และ อส.ตำรวจบ้านอีก 4 คน ได้ก่อเหตุไปล่อซื้อยาเสพติด 200 เม็ด จากนั้นก็อุ้มเหยื่อที่อ้างว่าเกี่ยวพันกับยาเสพติดรายหนึ่งไปกักขังไว้ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง แล้วเรียกเงิน 3 แสนบาท พร้อมทั้งปลดสร้อยคอทองคำ 1 บาท และพระเลี่ยมทอง 1 องค์ไป ภายหลังได้ให้สร้อยคอทองคำคืน แต่ไม่คืนพระเลี่ยมทอง เนื่องจากในตลาดพระองค์นี้มีราคาถึง 3 ล้านบาท จากนั้นเหยื่อได้ไปร้องเรียนกับ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ตนจึงเข้าไปดำเนินการสอบสวน จนกระทั่งทราบว่าข้อมูลร้องเรียนเป็นความจริง จึงให้ขออนุมัติศาลพัทยาออกหมายจับ พร้อมนำกำลังเข้าจับกุมได้ยกแก๊งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาที่หน้าโรงพัก พร้อมนำตัวมาส่งศาลจังหวัดพัทยาฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว
เบื้องต้นจากการสอบสวนยังทราบว่า ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ได้กระทำการความผิด พร้อมพวกอีก 4 คน ที่เป็นชาวบ้าน ให้มาคอยช่วยเหลือ โดยให้ชาวบ้าน 4 คน ที่ถูกจับ เป็นอาสาตำรวจบ้านไว้คอยช่วยเหลือในการร่วมกันกระทำความผิด แก๊งนี้มักเข้าจับกุมเหล่าพ่อค้ายาเสพติดมากรรโชกทรัพย์ เรียกทรัพย์สินเงินทอง ทำมาแล้วหลายครั้งแล้ว ส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะเกรงกลัวความผิด
ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ สมัยเป็นรอง สว.สภ.เมืองพัทยา เคยกระทำการเช่นนี้ แล้วถูกโยกย้ายเข้าช่วยราชการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แต่การสอบสวนไม่พบหลักฐานที่จะเอาผิดได้ จึงต้องย้ายกลับไปดำรงตำแหน่งรอง สว.ป.สภ.เมืองพัทยา สุดท้ายกระทำความผิดซ้ำอีก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอหนังสือให้พ้นจากราชการของ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิสมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ตามระดับขั้น หากหนังสือมาถึง ก็จะให้พ้นราชการทันที
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษก ตร.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้เสียหาย ชาย อายุ 22 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 21.30 น. ว่าตนกับหญิงสาว อายุ 20 ปี ได้ขับรถยนต์มาจอดบริเวณหน้าสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ถนนชัยพฤกษ์ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นได้มีกลุ่มชายหลายคนเข้ามาแสดงตัว และร่วมทำการตรวจค้นตัว ค้นรถของผู้เสียหาย โดยแจ้งว่าเป็นชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีการเรียกทรัพย์สินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา การสืบสวนสอบสวนขยายผล ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดขณะนี้พบ 6 ราย โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุญาตศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ในข้อหา ซ่องโจร,ร่วมกันกรรโชกทรัพย์,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อเสรีภาพ ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหา 5 ราย ที่ สภ.เมืองพัทยา และได้ทำการได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และอยู่ระหว่างการออกติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอีก 1 ราย โดย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว และดำเนินคดีอาญาและทางวินัย อย่างเด็ดขาดตามขั้นตอนต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ปลดออก ไล่ออก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปกระทำผิดกฎหมาย มาโดยตลอด ไม่มีการปกป้องหรือให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา เร่งทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กระทำความผิดกฎหมายเสียเอง เรื่องอย่างนี้ต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องตำรวจที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีข้อสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้กระทำผิดกฎหมายหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเสียเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกทั้งยังได้มอบนโยบายในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของยาเสพติดอยู่แล้ว เช่น โครงการตำรวจสีขาว และตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทั้งในเวลาราชการและนอกราชการ ซึ่งอาจมีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมาย หากปล่อยปละละเลยก็จะพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องตามลำดับชั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี