“บก.ตม.1” ที่รับผิดชอบ “กทม.” ออกตรวจเยี่ยมนักท่องเที่ยว นักธุรกิจที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายต่อเนื่อง สกัด “โควิด-19” ลามเข้าพื้นที่ “ไข่แดง” ของประเทศ

9 มีนาคม 2563 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (รอง ผบก.ตม.1) ในฐานะโฆษก บก.ตม.1 และรองโฆษก สตม. เปิดเผยว่า พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 มีความห่วงใย ทั้งเจ้าหน้าที่ ตม.1 ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ ต้องออกตรวจตราความสงบสุขของต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัย และใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯที่ถือเป็นพื้นที่ไข่แดง โดยเฉพาะในช่วงที่โคโรนาไวรัส หรือโควิด-19 แพร่ระบาด โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ ตม.1 ให้บริการและช่วยเหลือชาวต่างชาติภายใต้กรอบกฎหมายและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศไทยเป็นสำคัญ 

พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีชาวต่างชาติที่เป็นชาวจีน ตลอดจนประเทศที่ถูกประกาศให้เป็นประเทศเป้าหมายอยู่ในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่อยู่มาก่อนที่จะเกิดโรคระบาดในจีนและประเทศที่มีการระบาดมาก่อน เป็นเวลานานแล้ว จึงเบาใจได้ในระดับหนึ่ง ส่วนชาวต่างชาติที่มาจากประเทศเป้าหมายที่เกิดการระบาด จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายพิเศษของกระทรวงสาธารณสุข เช่น พ.ร.บ.ควบคุมโรคระบาด พ.ศ.2558  ฯลฯ อย่างเคร่งครัด

“ทาง สตม.โดย บก.ตม.1 จะส่งเจ้าหน้าที่สืบสวน ร่วมกับแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข ออกตรวจชาวต่างชาติประเทศเป้าหมาย ตามที่ได้แจ้งที่พักอาศัยไว้ตามมาตรา 37 และ 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 โดยนับตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด จนถึงวันที่ 8 มีนาคม 2563 ได้ดูแลต่อวีซ่าให้กับคนต่างด้าวสัญชาติจีนที่ยังกลับประเทศไม่ได้ประมาณ 11,344 ราย โดยคนจีนดังกล่าวมีความปลอดภัย เนื่องจากมีการตรวจไข้อยู่เป็นระยะ และไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด เพียงแต่ยังไม่สามารถกลับประเทศบ้านเกิดได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19” รองโฆษก สตม. กล่าว     

รองโฆษก สตม. กล่าวอีกว่า ในการออกไปตรวจตรากลุ่มสัญชาติเป้าหมายที่เข้ามาแล้ว หากมีไข้เกินกว่าที่กำหนดจะต้องนำเข้ารักษายัง รพ.ที่กำหนดไว้ ส่วนที่อุณหภูมิปกติ แต่เป็นประเทศที่ประกาศเป็นกลุ่มประเทศที่มีการระบาดรุนแรงของโรคนี้จะต้องกักตัวอยู่ที่พัก 14 วัน กรณีที่เข้ามาประเทศไทยและวัดไข้ตรงจุดตรวจคนเข้าเมืองโดยแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุข , แพทย์ตรวจคนเข้าเมืองโดยเคร่งครัด หากชาวต่างชาติดังกล่าวมีการย้ายที่พักไปจังหวัดอื่นนอกเขตกรุงเทพฯ จะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนั้นๆคอยตรวจตรา และดูแลร่วมกับแพทย์สาธารณสุขประจำจังหวัด หรือประจำพื้นที่นั้น เพื่อให้เกิดการควบคุมโรคที่ปลอดภัยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ต่อไป เพราะในขณะนี้ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองประจำจังหวัดครบทั้ง 76 จังหวัดแล้ว    

“การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย และข้อสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. และโฆษก สตม. , พล.ต.ต.ปฎิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบช.ตชด. ปฏิบัติราชการ สตม. และ พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 ที่สั่งการให้เข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว โดยหากประชาชนต้องการแจ้งข่าวต่างๆ , เบาะแส หรือพบการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 หรือการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แจ้งได้ที่สายด่วน สตม. 1178 หรือตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่นั้นๆ หรือเข้าไปดูที่เว็บไซต์ สตม. www.immigration.go.th. ได้ทันที” พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าว