ศาลยุติสอบวินัย-คดีอาญา"อดีตผู้พิพากษาคณากร" เลขาฯศาลยุติธรรมเผยเมื่อเสียชีวิต"ปธ.ฎีกา"สั่งยุติสอบ ส่วนคดีอาญาอาวุธปืนระงับตามป.วิ.อ.มาตรา39 เหลือเช็คระบบตรวจร่างคำพิพากษา 7เม.ย.รู้ผลเสนอก.ต.
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการยุติการดำเนินการสอบสวนการรักษาวินัยผู้พิพากษา กรณีของ นายคณากร เพียรชนะ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ช่วยราชการกองผู้ช่วยในศาลอุทธรณ์ภาค 5 (ภาคเหนือ) ที่ จ.เชียงใหม่ ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองครั้งแรกจนได้รับบาดเจ็บภายในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดยะลาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.62 หลังการอ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีฆาตกรรม ซึ่งระหว่างนั้นนายคณากรไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก และช่วงเกิดเหตุแล้วมีเอกสารจำนวน 25 หน้า ออกมาเผยแพร่อ้างเป็นแถลงการณ์ของนายคณากร แสดงความอึดอัดใจรู้สึกกดดันในการทำหน้าที่พิจารณาคดีจากผู้บังคับบัญชาต่อการตรวจสำนวนร่างคำพิพากษาว่า
เมื่อปลายปี 2562 คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีมติให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชั้นต้นกรณีเป็นที่สงสัยว่ามีพฤติการณ์กระทำผิดวินัยหรือไม่แล้ว แต่เมื่อปรากฏเหตุในภายหลังที่ผู้พิพากษาคณากรได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 7 มี.ค.63 ตนในฐานะเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้รายงานให้นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกาทราบตามขั้นตอนกรณีข้าราชการตุลาการ พ้นจากตำแหน่งเมื่อตาย ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 พร้อมเสนอการยุติสอบสวนเรื่องดังกล่าว ซึ่งประธานศาลฎีกา พิจารณาแล้วมีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ให้ยุติการสอบสวนกรณีผู้พิพากษาคณากร
ส่วนคดีอาญา ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ได้เคยขออนุญาตประธานศาลฎีกาดำเนินคดีผู้พิพากษาคณากร ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 นั้น เมื่อเสียชีวิต สิทธิการดำเนินคดีอาญาก็เป็นอันระงับ ยุติไปตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 39 (1)
เมื่อถามย้ำกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการแทรกแซงในกระบวนการตรวจสำนวนร่างคำพิพากษาก่อนการพิพากษาคดีหรือไม่นั้น นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังการตรวจสอบ ก.ต.มีมติเห็นว่าไม่มีมูล จากการกระทำของอธิบดีผู้พากษาภาค 9 จึงไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่มีข้อสังเกตเกี่ยวกับระบบตรวจร่างคำพิพากษาของภาค ที่ควรพิจารณาว่าแนวทางวิธีการนั้นมีปัญหาต้องปรับหรือแก้ไขจุดใดหรือไม่ จึงตั้งผู้พิพากษาที่เป็น ก.ต.และคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมหรือ ก.บ.ศ. (ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการออกระเบียบ-กฎหมายสนับสนุนการทำหน้าที่ศาลยุติธรรม) รวม 3 คน เป็นคณะอนุกรรมการศึกษาและพัฒนาหลักเกณฑ์แนวทางวิธีการตรวจร่างคำพิพากษาของภาค โดยกระบวนการศึกษานั้นใกล้จะเสร็จสิ้นแล้วภายในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะสรุปผลเสนอ ก.ต.ได้ทันในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 7 เม.ย.นี้ หากมีความคืบหน้าในผลว่าเป็นอย่างไรแล้วก็จะเผยแพร่ให้ทราบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี