ที่จริงการประชุมคณะมนตรีแอปเตอร์ โดยทั่วไปตัว agenda หรือระเบียบวาระการประชุม ก็จะมีมาตรฐานลำดับเรื่องไว้เกือบเหมือนๆ กันทุกครั้ง เว้นแต่จะมีเรื่องราวอะไรเป็นพิเศษก็จะเพิ่มเข้าไป ตามปกติส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่สำนักเลขานุการแอปเตอร์ต้องรายงานผู้แทนประเทศสมาชิกว่าปีที่ผ่านมา ทำอะไรไปบ้าง ใช้เงินใช้ทองไปเท่าไหร่ พร้อมต้องชี้แจงตอบข้อสงสัยหากสมาชิกถาม อีกทั้งจะต้องเสนอแผนงานและงบประมาณที่จะดำเนินงานในปีต่อไปด้วยถ้าคณะมนตรีอนุมัติก็จะได้ดำเนินการต่อไป
การประชุมครั้งที่ 8 นี้ไม่มี agenda อะไรเป็นพิเศษ ไม่เหมือนครั้งก่อน 2-3 ครั้งที่ผ่านมา เพราะครั้งก่อนโน้นต้องว่ากันในเรื่องการระดมบริจาคเงินทุนเพราะหมดเฟสแรกตามความตกลงแอปเตอร์ หรือ APTERR Agreement ที่ลงนามกันไว้ ผมเองช่วงนั้นในฐานะ จีเอ็ม ต้องรับผิดชอบทำแผนเงินกันอย่างหนัก แถมยังต้องไปแก้ไขความตกลงใหม่อีก ซึ่งมีขั้นตอนมากมาย นับเป็นประสบการณ์ใหม่เอี่ยมที่ช่วยกันทำจนสำเร็จ จนประเทศสมาชิกแอปเตอร์ให้ความชื่นชม จนกระทั่งมาถึงครั้งประชุมปัจจุบันยังค้างคาในเรื่องการให้สัตยาบันความตกลงฉบับใหม่ ที่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ หลายฝ่ายก็อภิปรายกันเพื่อขอให้แต่ละประเทศเร่งรัดกันหน่อย ส่วนมากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพิธีสารของกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่สมาชิกมนตรีแอปเตอร์เกือบทั้งหมดอยู่กระทรวงเกษตรฯ จึงไม่ลึกซึ้งมากนัก ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายสำนักเลขานุการแอปเตอร์ต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด ความเดือดร้อนประการเดียวที่อาจเกิดขึ้นคือ พวกเราจะไม่มีเงินทำงานกันเท่านั้นแหละ เพราะบางประเทศยึดหลักเคร่งครัด หากไม่มีการให้สัตยาบันครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าความตกลงยังไม่มีผลใช้บังคับ ฉะนั้นเกรงจะผิดหากมีการชำระเงินให้แอปเตอร์ เรื่องนี้จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีทั้งประเทศผู้ควักเงินบริจาคแล้ว และผู้ยังไม่บริจาค ก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆ จะตีความเป็นอย่างไร
การประชุมคณะมนตรีครั้งนี้ เป็นไปด้วยความราบรื่นและชื่นมื่นมาก เพราะหลังจากที่ผมนำเสนอในฐานะฝ่ายเลขานุการ แทบจะไม่มีสมาชิกท่านใครสอบถามคำถามเลย นอกจากจะชื่นชมและกล่าวสนับสนุนการทำงานของสำนักเลขานุการแอปเตอร์ ยิ่งผมแจ้งว่าประเทศไทยกำลังจะมอบออฟฟิศใหม่ให้และเอาภาพถ่ายอาคารสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) หลังใหม่เอี่ยมโชว์ให้ที่ประชุมดู เขาพากันปรบมือชื่นชมทางการไทยอย่างมาก จนกระทั่งท่านเลขาธิการ สศก. ที่เป็นคณะมนตรีแอปเตอร์ฝ่ายไทยและอยู่ที่นั่นด้วยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความภาคภูมิใจ
ยิ่งไปกว่านั้นคณะมนตรีแอปเตอร์บางคนยังเสนอว่า ควรพากันมาเยี่ยมชมออฟฟิศแอปเตอร์ใหม่ที่ว่ากันสักครั้งซึ่งในอะเจนด้าหลังๆ ผมก็ได้เรียนที่ประชุมว่า เราอาจมีการประชุมคณะทำงานย่อยเพื่อหารือการระดมเงินทุนในเฟส 3ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลง โดยคงจะจัดประชุมที่สำนักเลขานุการภายในปีนี้ และถ้าเป็นไปได้อาจจัดให้มีพิธีเปิดสำนักงานไปพร้อมกันในช่วงกลางๆ ปี นี้ ยิ่งทำให้ที่ประชุมตื่นเต้นกันใหญ่
ในภาคบ่าย เรามีการประชุมต่อเนื่องด้วยการรายงานผลการช่วยเหลือข้าวด้วยเหตุภัยพิบัติต่างๆ โดยประเทศผู้รับบริจาคในปีที่ผ่านมา ได้แก่ สปป.ลาว เมียนมาและฟิลิปปินส์ โดยเจ้าหน้าที่ตัวแทนประเทศนั้นๆ และตบท้ายด้วยการนำเสนอผลการศึกษาการดำเนินงานของแอปเตอร์เพื่อหาทางพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นซึ่งฝ่ายสำนักเลขานุการแอปเตอร์ได้จ้างที่ปรึกษาทำการศึกษา ปรากฏว่าไม่มีผู้เข้าประชุมให้ความเห็นเท่าใดนัก จึงจบวาระไปโดยมีอุปสรรคนิดหน่อยตรงที่เกิดไฟฟ้าดับอยู่พักหนึ่ง ทุกคนจึงต้องนั่งรอกันเพื่อลุ้นให้ไฟฟ้ามาเสียที
สุดท้ายของการประชุมวันนี้ คือหาสถานที่และเวลาของการประชุมคณะมนตรีแอปเตอร์ครั้งต่อไป ซึ่งตามลำดับตัวอักษรเจ้าภาพครั้งต่อไป คือ ประเทศฟิลิปปินส์ คุณจูดี้ผู้บริหารสูงสุดของ เอ็นเอ็ฟเอ ฟิลิปปินส์เสนอเองว่า ครั้งต่อไป ปี 2021 จะจัดประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ โดยบอกว่าจะไปจัดที่เมืองโบโฮล ตอนกลางของประเทศอันโด่งดังเรื่องภูเขาช็อกโกแลต (TheChocolate Hills) ซึ่งก็ได้รับการปรบมือจากที่ประชุมมากเช่นกัน มาถึงตรงนี้ยังคงเหลืออีกวาระเดียว คือ การรับรองสรุปผลการประชุมที่ฝ่ายสำนักเลขานุการแอปเตอร์บันทึกไว้ ซึ่งนัดกันจะมาต่อกันในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ภาคบ่ายจะเป็นรายการไปดูงาน
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี