หญิงพิการนั่งรถไฟมาจากจังหวัดนครสวรรค์ ก่อเหตุชิงทองในเมืองพิษณุโลก แต่หนีไม่รอดพลเมืองดีช่วยกันจับได้ ผู้ต้องหาอ้างไม่มีไม่มีทางเลือกหาเงินเลี้ยงลูก 2 คน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 1 เม.ย.63 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจได้ควบคุมตัวนางวิไลลักษณ์ โพธิรัตน์ อายุ 42 ปี สภาพร่างกายพิการข้อมือแขนขวาด้วน อยู่บ้านเลขที่ 165/2 ม.4 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 สลึง 1 เส้นเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณห้างทองจงลักษณ์ เลขที่ 57/3-4 ถนนนเรศวร ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก หลังจากเวลาประมาณ 08.10 น.ที่ผ่านมาได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ห้างทองจงลักษณ์แล้ววิ่งหนีแต่ถูกพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวได้ นำส่งตำรวจ
การสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพก่อนหน้ามีอาชีพขอทานและเดินทางด้วยรถไฟฟรีจาก จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่คืนที่ผ่านมาพร้อมกับลูก 2 คน อายุ 15 ปี และ 12 ปี กระทั่งเช้าได้เดินเข้าไปร้านทองจงลักษณ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก โดยมาขอดูสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ระหว่างที่เจ้าของร้านนำทองออมาให้ดูจึงอาศัยจังหวะคว้าวิ่งออกจากร้านไปทันที กระทั่งวิ่งไปไมไกลได้ล้มและถูกชาวบ้านคนในละแวกช่วยกันจับกุมตน ซึ่งตนอยากนำเงินไปเลี้ยง 2 คน เนื่องจากไม่มีรายได้อะไร ก็หวังว่าถ้าชิงทองไปแล้วก็จะนำไปขายเพื่อหาเงินไปลงทุนขายผักอีกครั้ง แต่ก็กลับมาถูกจับตัวได้ในที่สุด
ด้านนางจุฑาทิพย์ อัศวชัยวัฒน์ อายุ 61 ปี เจ้าของห้างทองจงลักษณ์ เปิดเผยว่า ระหว่างขายทองอยู่ในร้านได้มีหญิงสาวหรือผู้ต้องหาคนดังกล่าว เดินเข้ามาขอดูสร้อยทองหนัก 1 สลึง ตนก็เริ่มสงสัยตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ไม่กังวล เพราะราคาทองไม่มากเท่าไหร่ จึงได้หยิบให้ดู 1 เส้นโดยระวังตัวตลอดเวลา ระหว่างนั้นพูดว่าเอาเส้นนี้แหละ พร้อมกับคว้าสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง วิ่งออกไปทันที
เจ้าของห้างทอง กล่าวว่า ตนได้ตะโกนบอกคนในละแวกให้ทราบว่า มีคนชิงสร้อยทองคำโดยมีคนที่เห็นเหตุการณ์วิ่งไล่ตาม จนกระทั่งควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมสร้อยคอทองที่อมไว้ในปาก จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจควบคุมไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า ผู้ต้องหาเป็นคนพิการแขนด้วนน่าจะก่อเหตุด้วยความจำเป็นเนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ตรวจสอบไม่พบประวัติ เดินทางมาจาก จ.นครสวรรค์ พร้อมลูกอีก 2 คน ซึ่งทางตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก เพื่อติดต่อกับ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครสรรค์ มารับตัวลูกผู้ต้องหาดูแลอีกที ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวิธี ไม่สมควรเป็นแบบอย่าง น่าจะมีหนทางในการหาเงินที่ดีกว่านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี