วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รวมภาพบรรยากาศเคอร์ฟิววันแรก! ท้องถนนทั่วไทยเงียบกริบ ปชช.แห่กลับบ้านแต่หัวค่ำ

รวมภาพบรรยากาศเคอร์ฟิววันแรก! ท้องถนนทั่วไทยเงียบกริบ ปชช.แห่กลับบ้านแต่หัวค่ำ

วันเสาร์ ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563, 08.50 น.
Tag : ทั่วไทย เคอร์ฟิววันแรก เคอร์ฟิว
  •  

จังหวัดพะเยาจัดพิธีปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง หลังรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว

จังหวัดพะเยาจัดพิธีปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อปฏิบัติการตามคำสั่งในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน หลังรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิว โดยให้ประชาชนห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22:00 น. จนถึงเวลา 04.00 น. ซึ่งหลังจากเวลา 22.00 น. พบว่าในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่มีใครออกนอกเขตเคหะสถาน ซึ่งทำให้บรรยากาศในพื้นที่จังหวัดพะเยาเงียบสงบไม่มีผู้เดินทางแต่อย่างได


นายกมล เชียงวงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย พลตรี จรัส  ปัญญาดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 34 พะเยา และพลตำรวจตรีธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา ต้องร่วมกันเข้าทำการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ ทั้งข้าราชการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ออก ปฏิบัติการตามคำสั่งของรัฐบาลในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน ที่ทางรัฐบาลได้มีมาตรการให้ประชาชนห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา  22.00  น. จนถึงเวลา 04.00 น. เพื่อเป็นการป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีมาตรการเข้มข้น ที่จะไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหะสถาน เพื่อบรรเทาในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดปฏิบัติการดังกล่าว พบว่า ในพื้นที่จังหวัดพะเยาช่วงหลังเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวได้มีการลาดตระเวนไปตามถนนสายต่างๆในพื้นที่ของจังหวัดพะเยา พบว่ามีประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง โดยสภาพถนนแทบทุกเส้นทางไม่มีรถที่สัญจรผ่านไปมา รวมทั้งประชาชนก็ไม่ได้ออกนอกเคหะสถานแม้แต่อย่างได ทำให้บรรยากาศในพื้นที่จังหวัดพะเยาเงียบสงบและประชาชนให้ความร่วมมือกับมาตรการนี้อย่างเคร่งครัด

 

ราชบุรีคุมเข้มเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกจากบ้าน ปล่อยแถวตำรวจตั้งด่านสกัดรอบเมือง

ที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ถ.อัมรินทร์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย พลตำรวจตรี กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.ภ.7 เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม และกวดขันจับกุมบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อห้าม ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (เคอร์ฟิว) ซึ่งกำหนดห้ามบุคคลออกจากเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น.

ส่วนผู้ที่ได้รับการยกเว้นและต้องการเดินทางต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงาน บริษัทห้างร้านต่างๆ โดยการออกหนังสือ ชื่อ-สกุล ต้องตรงกับบัตรประชาชน และกำหนดสถานที่เริ่มต้นเดินทาง ไปยังจุดหมายปลายทางที่ใด ต้องระบุให้ชัดเจน เพราะเวลาที่เจ้าหน้าที่เรียกตรวจหลักฐานต้องตรงกัน ส่วนรายที่ประกอบอาชีพอิสระ ไม่มีนายจ้าง และต้องการเดินทางให้ไปขออนุญาตจากที่ว่าการอำเภอที่ตนเองอยู่เพื่อกรอกหนังสือรับรอง เมื่อสอบสวนเสร็จนายอำเภอผู้รับรองจะต้องพิจารณาอนุญาตให้เป็นรายไป

 

ด้านจังหวัดปราจีนบุรีบรรยากาศในพื้นที่ตลาดเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ในช่วงค่ำใกล้เวลาสถานการณ์ฉุกเฉินพบว่าบรรดาร้านค้าส่วนใหญ่ได้ปิดร้านกันตั้งแต่ช่วงค่ำแล้ว

ที่บริเวณลานฝึกหน้าตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีร่วมพิธีปล่อยแถวตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร

การปล่อยแถวตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้มีข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี สารวัตรทหารจาก มณฑลทหารบกที่ 12 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน กอ.รมน. นปพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 90 นาย ร่วมพิธีเพื่อตรวจตราในสถานที่ต่าง ๆพร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและสร้างความเชื่อมั่นใจให้ประชาชน 

ต่อมา พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภาค 2ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่จุดคัดกรอง บริเวณตลาดประชารัฐ ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และมอบอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

ส่วนบรรยากาศในพื้นที่ตลาดเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ในช่วงค่ำใกล้เวลาสถานการณ์ฉุกเฉินพบว่าบรรดาร้านค้าส่วนใหญ่ได้ปิดร้านกันตั้งแต่ช่วงค่ำแล้ว เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีมีการระบาดโรคโควิด-19 ทำให้ไม่มีประชาชนเดินทางออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันแต่อย่างใดจนทำให้ถนนในเขตเทศบาลมีปริมาณรถเบาบางผิดปกติโดยเฉพาะถนนสายสุวรรณศรที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดนครนายกพบว่ามีปริมาณรถน้อยมาก มีเพียงรถบรรทุกสินค้าที่ใช้เส้นทางเท่านั้น

 

เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจฝ่ายปกครองเข้มงวดตามคำประกาศเคอร์ฟิวคืนแรกตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั้งในเมืองและรอบเมืองห้ามคนออกจากบ้าน

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยพลตำรวจตรี ดำรัส วิริยะกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมปล่อยแถวปฏิบัติการตามมาตรการการควบคุมพื้นที่ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 

ส่วนบรรยากาศภายในเมืองหาดใหญ่เป็นไปด้วยความเงียบเหงาร้านค้าโรงแรมต่างๆในเมืองหาดใหญ่ปิดทั้งหมด

พลตำรวจตรีทิวธวัช นครศรีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยพันตำรวจเอกอภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตั้งจุดตรวจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาตรการป้องกันไวรัสแต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังเดินทางในช่วงเวลาที่มีการประกาศซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและบันทึกประวัติไว้ทุกคนพร้อมทั้งสอบถามถึงความจำเป็นในการออกเดินทางและก่อนที่จะกลับเจ้าหน้าที่ยังตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายทุกคน

โดยพลตำรวจตรีทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลากล่าวว่าการตั้งจุดตรวจในครั้งนี้ถือเป็นคืนแรกรายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามออกจากสถานช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งคืนนี้จะทำความเข้าใจกับประชาชนและหากหลังจากนี้มีประชาชนฝ่าฝืนคำประกาศการดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามคำประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ห้ามประชาชนออกจากสถานในช่วงเวลาที่กำหนด

ส่วนทางด้านฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ได้มีการตั้งจุดตรวจ แบ่งเจ้าหน้าที่เป็น3ชุด ดูแลเมืองหาดใหญ่ชั้นนอกเพื่อเป็นการเข้มงวดและกวดขันตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส โควิส19ที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินห้ามประชาชนออกจากสถานตามเวลาที่กำหนด

 

ศรีสะเกษปล่อยแถวกำลังผสมปฏิบัติหน้าที่วันแรกเคอร์ฟิว ยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเป็นรูปธรรม

ที่ลานเอนกประสงค์หน้า บก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีรอง ผวจ. ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ พล.ต.ต. สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ  พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัดร่วมในพิธี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตำรวจทางหลวง พิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมปล่อยแถว จำนวน 170 นาย รถยนต์ 40 คัน จักรยานยนต์ 14 คัน พ.ต.ท. สุวรรณ พันวงค์ สว.อก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวรายงาน กรณีรัฐบาลยกระดับออกประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างเวลา 22.00 น. – 04.00 นาฬิกา ตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีข้อสั่งการให้ตำรวจภูธรทุกจังหวัดบูรณาการวางแผน และพิจารณาจัดกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้และยานพาหนะ ออกตรวจตรา ปฏิบัติหน้าที่ และตั้งจุดตรวจ ร่วมกับหน่วยงานตำรวจในพื้นที่ หน่วยงานทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจทางหลวง ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้ดำเนินการ ปล่อยแถวระดมกำลังปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ในการยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

มหาสารคามเคอร์ฟิวคืนแรก เจ้าหน้าที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข 

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม  พลตำรวจตรีพรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  พร้อมด้วยนายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม  ร่วมปล่อยแถวระดมเจ้าหน้าที่ตรวจตรา  ป้องกันการฝ่าฝืนพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  และประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมหาสารคาม เพื่อควบคุมป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนในจังหวัดมหาสารคาม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พลเรือน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข  ร่วมปล่อยแถวจำนวน 180 นาย

ในการระดมปล่อยแถวในครั้งนี้ จึงเป็นการเพิ่มมาตรการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสก่อเหตุอาชญากรรม ป้องปรามกลุ่มบุคคล ร้านค้า สถานบริการที่ฝ่าฝืนการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาปล่อยแถวกองกำลังผสม​ คุมเข้มหลังประกาศ​เคอร์ฟิว​    

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พล.ต.ต.ธรัฐชา ถมปัทม์ ผบก.ภ.จว.พังงา นาวาเอกอภิชาติ วรภมร รอง ผอ.รมน.จ.พังงา  ร่วมปล่อยแถวระดมกำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม​ เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ณ บริเวณหน้า สภ.เมืองพังงา อ.เมืองพังงา

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดให้ทุกหน่วยในสังกัด จัดให้มีการปล่อยแถวระดมกำลังในวันที่ 3 เมษายน 2563 เพื่อรองรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดตามมาตร 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ซึ่งห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานทั่วราชอาณาจักร ระหว่างเวลา 22.00 น. - 04.00 น. โดยได้บูรณาการร่วมกันระหว่างข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ทหารเรือจากฐานทัพเรือพังงา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยข้างเคียง รวมทั้งสิ้น 94 นาย ซึ่งจะได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของรัฐบาล มาตรการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประกาศของจังหวัดพังงา ในการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพังงาต่อไป

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยปล่อยแถว ตำรวจ ทหาร ปกครอง ลงพื้นที่ตรวจด้วยตัวเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานพิธีปล่อยแถวข้าราชการฝ่ายต่างๆออกปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีในการที่จะจำกัดการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้ขยายออกไปเป็นวงกว้างในภาวะฉุกเฉิน

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่าตามที่นายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากเหตุการณ์การระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ไปแล้วนั้และในการนี้มีกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับหลายประการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนตำรวจภูธรจังหวัดเลยได้รับมอบหมายให้บูรณาการ กำลังข้าราชการฝ่ายต่างๆ ออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีในการที่จะจำกัดการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้ขยายออกไปเป็นวงกว้างจึงต้องมีการร่วมบูรณาการกำลังในการปล่อยแถวจึงได้กำหนดให้มีการปล่อยแถวข้าราชการฝ่ายต่างๆ ออกตรวจตรากวดขัน บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประกาศให้ดำเนินการตามนโยบายการควบคุมโรคติดต่อของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

จากนั้นคณะนำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้ออกตรวจตามพื้นที่ต่างเช่น ร้านสะดวกซื้อ บขส.หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ให้คำแนะนำ กับชาวบ้านที่ยังไม่เข้าใจแนะให้กลับบ้านก่อน 4 ทุ่ม ในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

บางละมุงขานรับเคอร์ฟิวปิดเมืองสกัดโควิด 19

ตามที่ทางรัฐบาลได้ประกาศห้ามบุคคลใดทั่วประเทศออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ในช่วงระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เว้นแต่มีความจำเป็นและผู้มีความจำเป็นต้องเดินทาง อาทิ ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ เป็นต้น ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่างได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าในเขตพื้นที่อำเภอบางละมุง ได้มีการตั้งจุดคัดกรองที่เข้มงวดแล้ว 1 จุด บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร หน้า สภ.บางละมุง โดยการตั้งจุดสกัดนั้นมีการสนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ทหารจาก สห.มทบ.14 เพื่อตรวจสอบการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยหากเป็นบุคคลต่างพื้นที่ ก็จะไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยา และห้ามออกนอกเขตพื้นที่ แต่หากเป็นผู้ใช้แรงงานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ก็จะมีการจัดทำบัตรเพื่อแสดงตัวจากนั้นจะทำการคัดกรองและปล่อยเข้ามาในพื้นที่ในช่วงเวลาทำการได้ หากว่ากล่าวตักเตือนแล้วไม่เชื่อฟัง ก็จะดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายทันที

นอกจากนี้ยังพบว่าตามตอกซอกซอยต่างๆ รวมไปถึงบนถนนหลักสุขุมวิท แทบไม่มีรถสัญจรไปมา มีเพียงส่วนน้อยที่กำลังจะไปทำงานและเลิกงานกลับที่พักเท่านั้น ส่วนร้านอาหารก็ปิดบริการทั้งหมด ทำให้บรรยากาศภายในเมืองพัทยาดูเงียบเหงาไปอย่างถนัดตา

                   

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ใบเฟิร์น-ชาคริต'คว้านักแสดงนำยอดเยี่ยม 'กรรชัย'ซิวพิธีกรยอดเยี่ยม-'ต่าย อรทัย'นักแสดงนำหญิงละครเย็น

ผู้แสวงบุญหญิงชาวไทยวัย 71 ปี เสียชีวิตขณะประกอบพิธีฮัจย์ ที่ซาอุดีอาระเบีย

โจมตีครั้งใหญ่! รัสเซียส่งโดรนถล่มยูเครน273ลำ ก่อน'ทรัมป์-ปูติน'ยกหูหารือเพียง1วัน

'มหาดไทย' ขึ้นบัญชีแดง ผู้มีอิทธิพล 566 ราย บุคคลที่ต้องเฝ้าระวัง 625 ราย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved