ศาลออกแนวปฏิบัติการฝากขัง-ไต่สวนผู้ต้องหาครั้งแรกผ่านระบบวิดิโอ โดยไม่ต้องนำตัวมาศาล ช่วงไวรัสโควิด-19แพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ออกแนวทางปฏิบัติงานการสอบถามผู้ต้องหาหรือไต่สวนพยานหลักฐานในการฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกผ่านระบบการประชุมทางจอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโควิด-19
โดยสมควรกำหนดวิธีการปฏิบัติในทางธุรการเกี่ยวกับการสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น ตั้งแต่ครั้งแรกอาศัยอำนาจตามความในข้อ 8 แห่งข้อบังคับของ ประธานศาลฎีกาว่าด้วยการสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขัง ผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ.2556 และข้อ 4 แห่งระเบียบราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรมว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาในศาลที่เกี่ยวกับผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำหรือสถานที่กักขัง โดยมี มาตรการลดการเดินทางมาศาล และลดจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำที่แออัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังต่อไปนี้
1.การยื่นคำร้องและรูปแบบคำร้อง ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการยื่นคำร้องขอหมายผัดฟ้อง/ฝากขัง และเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อศาลโดยทางโทรสารจดหมายอิเล็กทรอนิกส์สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นใดโดยจัดส่งคำร้องมายังศาลในวันเวลาราชการล่วงหน้าก่อนกำหนดนัดไต่สวน เมื่อศาลได้รับคำร้องแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ศาลผู้รับผิดชอบตรวจสอบคำร้องขอผัดฟ้องหรือฝากขังที่ได้รับ หากไม่ถูกต้อง ให้แจ้งพนักงานสอบสวนทราบทางโทรศัพท์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นเพื่อแก้ไขให้ ถูกต้องโดยเร็ว จากนั้น รับคำร้อง บันทึกข้อมูลคดีประวัติและภาพถ่ายผู้ต้องหาไว้ในโปรแกรมระบบสำนวนคดี แล้วจัดทำสำนวนการขอผัดฟ้องหรือฝากขังเสนอผู้พิพากษาพิจารณาสั่งเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้สอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพหรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นได้ให้เจ้าหน้าที่ศาลประสานงานไปยังพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ เพื่อสอบถามวันนัดไต่สวนและความพร้อมของระบบการประชุมทางจอภาพ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น
ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่เห็นว่าระบบที่ใช้อยู่มีเหตุขัดข้อง ก็ให้รายงานเหตุนั้นต่อศาลโดยพลัน เพื่อให้ศาลพิจารณาอนุญาตให้นำสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นมาใช้ในการไต่สวนแทน และนัดหมายเวลาในการไต่สวนคำร้องดังกล่าว เมื่อได้ กำหนดวันนัดไต่สวนแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ศาลจัดเตรียมความพร้อมระบบการประชุมทางจอภาพหรือ สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น เพื่อใช้ในการสอบถามหรือทำการไต่สวนตามวันเวลาที่ศาลกำหนด โดยให้ดำเนินการภายในห้องพิจารณาคดีโดยมีการถ่ายทอดภาพและเสียงระหว่างห้องพิจารณาคดีกับสถานีตำรวจ เรือนจำ หรือที่ทำการของพนักงานอัยการ โดยให้พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ นำตัวผู้ต้องหามาไต่สวนที่สถานีตำรวจ หรือเรือนจำ หรือที่ทำการของอัยการแล้วแต่กรณี
หากผู้ต้องหาประสงค์ขอประกัน โดยไม่มีหลักประกัน ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณีส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว (คำร้องใบเดียว) มายังศาลโดยทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่น เพื่อให้ศาลพิจารณาสั่งการสาบานตนของผู้ต้องหา ก่อนปล่อย อาจทำผ่านระบบการประชุมทางจอภาพได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี