7 เมษายน 2563 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลาง จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พ.อ.พสิน แสงคำ รองผอ.กอ.รมน.จว.เชียงราย ประชุมนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ และหน่วยทหารที่ประจำการอยู่ในพื้นที่จ.เชียงราย ประกอบไปด้วย ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ มณฑลทหารบกเชียงรายที่ 37 ร้อย ตชด.327 อ.แม่จัน จ.เชียงราย เพื่อกำหนดมาตรการในการลาดตระเวนเพื่อป้องกันไฟป่าและจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่จุดไฟเผา ภายหลังจากตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย.2563 ดาวเทียมระบบระบบโมดิฟวัดจุดความร้อนหรือฮอตสปอตได้ จำนวน 248 จุด และระบบเวียร์ตรวจวัดได้มากถึง 1,599 จุด มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้เผาไปแล้ว 45 คดี และมีพื้นที่ถูกเผาคาดว่ามีประมาณ15,000 ไร่
โดยนายประจญ กล่าวว่า ในรอบสัปดาห์นี้เกิดคดีเผาขึ้นแล้ว 7 ราย จับกุมได้ 6 ราย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิดอีก 1 ราย ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เผาเพื่อหาของป่า หรือผึ้งป่า ปัจจุบันก็ยังเกิดไฟไหม้ขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นเหตุให้มีประชาชนจิตอาสาพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง เสียชีวิตไปแล้วจำนวน 1 คน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้ามากส่วนผู้มีผู้บาดเจ็บก็มีอีกมากมาย ดังนั้น จ.เชียงราย จึงใช้มาตรการด้วยการเน้นการป้องปรามและจับกุมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะทราบสาเหตุชัดเจนแล้วว่าการลุกไหม้เกิดจากการเผาของคนแน่นอน โดยในรอบสัปดาห์นี้ดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 7 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ส่วนอีกรายอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามตัว ราย ล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 7 เมษายนนี้
ขณะที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ทำแนวกันไฟก็พบชาย 1 คน ก็ได้พบรายล่าสุดกำลังเผาป่าพื้นที่หมู่ 4 ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปดำเนินคดีแล้ว ทั้งนี้จังหวัดจะไม่ยอมสูญเสียอีกแล้วหลังจาก จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว4 รายและเชียงราย 1 ราย จึงมีการประกาศปิดผืนป่าแล้ว หากไม่จำเป็นชาวบ้านไม่ควรเข้าไปในป่าและยิ่งเผาเช่นนี้ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ แต่ก็เป็นเหตุให้เกิดการลุกลามก็จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด โดยครั้งนี้ได้มีการขอกำลังเสริมจากฝ่ายทหารและ ตชด.เข้ามาร่วมเข้าลาดตระเวนทุกจุดและดำเนินคดีกับผู้ที่ยังเผาอย่างเข้มข้นด้วย
ด้าน พ.อ.พสิน กล่าวว่า หน่วยทหารจากทั้ง 4 หน่วยหลักเข้ามาร่วม 30 ชุดปฏิบัติการ จะกระจายลงไปในทุกอำเภอเพื่อร่วมกับชุดดับไฟป่าของตำบลและหมู่บ้าน ตำรวจ 1 นาย และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อพบเจอคนกระทำความผิดทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็จะเป็นเจ้าทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลยทันที ทั้งนี้กำลังทหารที่เข้าไปสนับสนุนนั้นทางนายอำเภอสามารถโยกย้ายกำลังไปยังตำบลต่างๆ ได้ตามสถานการณ์ ภารกิจคือลาดตระเวณ หาข่าว เพื่อสกัดกั้นและติดตามจับกุมคนลักลอบเผาป่าทั้งทางรถยนต์ จักรยานยนต์และเดินเท้า.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี