8 เมษายน 2563 จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนไปดำน้ำบริเวณปลายแหลมหาดนุ้ยและล่ายิงปลาสวยงาม พร้อมมีการโพสต์ภาพปลาที่ยิงได้เพื่ออวดต่อสาธารณะ จนกระทั่งนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เร่งดำเนินการตรวจสอบทันที เบื้องต้นสรุปได้ว่าปลาที่เห็นตามภาพเป็นปลานกแก้ว ปลาขี้ตังเบ็ด และปลาวัวหางพัด จัดอยู่ในประเภทปลาสวยงามห้ามล่า ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้กำหนดเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ทันทีที่ตนได้รับการประสานจากท่านที่ปรึกษา รมว.ทส. และได้ดำเนินการตามข้อสั่งการเรียบร้อย โดยมอบหมายให้นายประถม รัสมี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าตรวจสอบในพื้นที่ อ่าวนุ้ย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวมิได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราลาดตระเวนบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบภาพปลาที่นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวล่าได้ เป็นปลาจำพวก ปลานกแก้ว Scarus spp., ปลาขี้ตังเบ็ด Acanthurus lineatus, และปลาวัวหางพัด Aluterus scriptus ซึ่งปลาทั้งหมดไม่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายสัตว์คุ้มครองฯ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ แต่จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งการจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี ๓ ท้ายประกาศนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
จากการประสานงานของสถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ทราบว่าชาย 2 คน (ในภาพ) คือ นักท่องเที่ยวชาวจีน ชื่อ Mr. Ning Peng และ Mr. Shang Hao ซึ่งทั้งสองได้เช่ารถยนต์จากบริษัทภูเก็ตคาร์เร้น เข้าไปในพื้นที่และรับว่าเป็นบุคคลในภาพจริง ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต จึงได้เชิญตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน และบุคคลที่ถ่ายภาพส่งให้ลงสื่อออนไลน์ เพื่อให้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมว่าเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่ หากเข้าองค์ประกอบความผิด ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต ซึ่งออกตามมาตรา 45 แห่งพรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
นายโสภณ กล่าวต่อว่า ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) มีความตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยภายหลังจากที่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ท่านได้สั่งการให้ทุกฝ่ายดำเนินการตรวจสอบพร้อมเร่งติดตามหาผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหา อีกทั้งกล่าวขอขอบคุณกลุ่มแฟนข่าว เสริฐ ภูเก็ต ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานภาครัฐ และแจ้งเบาะแสสำหรับผู้ที่ไม่หวังดีต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อีกทั้งยังห่วงใยในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเปรียบเสมือนสมบัติอันล้ำค่าของส่วนรวมที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลเฝ้าระวัง
สุดท้ายนี้ ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนว่า การทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งไม่ว่าจะตั้งใจก็ดีหรือไม่ตั้งใจก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรทางทะเล รวมถึงปลาที่สวยงาม และแหล่งปะการังต่างๆ เสื่อมโทรมลง อาจสร้างผลกระทบต่อวงจรในระบบนิเวศทางทะเล การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ อย่าคิดว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลเป็นของเราแค่เพียงคนเดียว
เพราะทรัพยากรเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติของชาติและของทุกๆ คนที่ต้องช่วยกันดูแล รักษาไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล ดังนั้น หากทุกคนร่วมมือร่วมใจช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้ผู้ใดมาทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเสียหาย เชื่อว่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะยังคงอยู่คู่กับประเทศไทยและลูกหลานของเราสืบไปในการนี้ ตนยังได้กำชับเจ้าหน้าที่หากพบผู้กระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์หากพบเห็นการกระทำลักษณะดังกล่าวให้แจ้งมายังสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ได้ที่นายประจวบ โมฆรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หรือติดต่อหมายเลข 084-439-9423 ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี