ชุมชนคนชายขอบวิกฤตกันถ้วนหน้า-เข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือรัฐ ชาวเลไม่มีข้าวกิน แม้หาปลาได้แต่ไม่มีที่ขาย ขณะที่"ครูแดง"เผยคนไร้สัญชาติกว่า 8 แสนกำลังเดือดร้อนหนัก
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2563 นายสนิท แซ่ชั่ว ชาวเลชุมชนราไวย์ จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า นับตั้งแต่กุมภาพันธ์ ภายหลังจากเริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และธุรกิจต่างๆ เริ่มปิดตัวลงได้ส่งผลกระทบกับชาวเลในชุมชนราไวย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่หายไป ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถขายปลาได้ แม้ว่ายังหาปลาได้สม่ำเสมอ แต่เมื่อมาตรการต่างๆ ของทางจังหวัดเข้มข้นขึ้นและชาวต่างชาติกลับบ้านหมดแล้ว ปลาที่หามาก็ไม่สามารถเอาไปขายที่อื่นๆ ได้ แม้แต่แพปลาเพราะเป็นข้อห้ามของเทศบาล
“ตอนนี้เราต้องลำบากซ้ำ เพราะไม่มีข้าวสาร พวกที่เคยรับจ้างสปีดโบทก็ถูกเลิกจ้าง จึงไม่มีรายได้ คนในชุมชนมีด้วยกัน 1,373 คน ตอนนี้แทบไม่มีรายได้กันเลย 80% ไม่มีเงิน แม้จะมีข้าวสารขายตามร้านของชำ แต่ก็ไม่มีเงินซื้อ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล พวกเราก็เข้าไม่ถึง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือและกรอกข้อมูลในระบบออนไลน์ไม่เป็น บางคนไม่มีมือถือ ขนาดเปิดบัญชีธนาคารยังไม่มีเงิน และไม่กล้าด้วย” นายสนิท กล่าว
นายสนิทกล่าวว่า ในบางวันเทศบาลราไวย์ได้แจกข้าวกล่องที่สำนักงานเทศบาล แต่ชาวบ้านก็ไปรับบ้าง ไม่ได้ไปรับบ้างเพราะต้องเดินทางและไม่ได้มีแจกทุกวัน
“ที่พวกเราอยากได้ในตอนนี้คือขอข้าวสารก่อน เพื่อให้ประทังชีวิต ครอบครัวหนึ่งมี 5 คน กินข้าววันละ 4 กิโลกรัม แต่ตอนนี้แทบไม่มีกิน เราพยายามออกเรือและดำน้ำจับปลาเอามาเร่ขาย แต่ก็ขายไม่ค่อยได้ วันก่อนมีมูลนิธิแห่งหนึ่งแจกข้าวสารที่ในเมือง พวกเราก็ไปเอาไม่ได้ ยังดีที่มีเอกชนบางราย เอาข้าวมาแจกอยู่บ้างซึ่งก็ไม่เพียงพอ” นายสนิท กล่าว และว่าทุกวันนี้ได้ปลาเอามาจำนวนมากก็เอามาแช่ตู้เย็นไว้ บ้างก็ผ่าทำเค็มเพื่อแปรรูปเก็บไว้กินนานๆ แต่ข้าวเราไม่รู้จะไปหาเอาจากที่ไหน
ขณะที่นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีบุคคลที่ยังไม่มีสัญชาติและขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทยอยู่ประมาณ 8 แสนคน ซึ่งปกติคนเหล่านี้ก็แทบเข้าไม่ถึงสิทธิใดๆจากบริการของรัฐอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดการสถานการณ์แพร่ระบาดของไว้รัสโควิด-19 และกิจกรรมต่างๆของประเทศเทศไทยหยุดลง ทำให้คนกลุ่มนี้เดือดร้อนมาก เพราะเข้าไม่ถึงมาตรการที่รัฐบาลออกมา เพราะมาตรการของรัฐบาลจำเป็นต้องใช้เลข 13 หลักของผู้มีสัญชาติไทย ซึ่งปรากฎบนบัตรประชาชนไทย แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่มีสัญชาติไทย จึงไม่ได้รับสิทธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่ยังตกหล่น และสำนักทะเบียนก็หยุดให้บริการในช่วงนี้
นางเตือนใจกล่าวว่า ที่เห็นชัดเจนคือกรณีของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งมีอยู่นับหมื่นคนที่อยู่ระหว่างกระบวนการขอคืนสัญชาติ แต่วันนี้เมื่อมีการปิดด่านสิงขรที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้อาชีพหลักที่เคยค้าขายบริเวณด่านสิงขรต้องหยุดลง ขณะที่อีกจำนวนมากที่มีอาชีพรับจ้างก็ไม่มีงานทำและต้องอาศัยอยู่ตามบ้านญาติพี่น้อง
“ดิฉันคิดว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญกับกลุ่มคนที่เปราะบางในชายขอบของสังคมด้วย นอกจากคนจนๆ ที่ยังไม่มีบัตรประชาชนแล้ว ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่จำเป็นต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือพวกเขา เช่น กลุ่มแรงงานข้ามชาติซึ่งมีอยู่นับล้านคน วันนี้เมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาจะกินอยู่กันอย่างไร ที่สำคัญคือระบบสุขอนามัยของพวกเขาเป็นอย่างไร ในยามสถานการณ์ปกติพวกเขาคือกำลังแรงงานที่มาช่วยเรา แต่เมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตจากไวรัสโควิด เราก็ต้องดูแลพวกเขาด้วย อย่าลืมว่าเชื้อไวรัสนี้ไม่ได้เลือกเผ่าพันธุ์” นางเตือนใจ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี