วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'ศบค.'กางสถิติเหยื่อโควิด ช่วงอายุ 50-59 ปีตายสูงสุด โรค'เบาหวาน'ขึ้นที่หนึ่ง

'ศบค.'กางสถิติเหยื่อโควิด ช่วงอายุ 50-59 ปีตายสูงสุด โรค'เบาหวาน'ขึ้นที่หนึ่ง

วันเสาร์ ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563, 14.30 น.
Tag : นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เบาหวาน ศบค. เหยื่อโควิด
  •  

ศบค.ปลื้มไม่มีคนตาย 14 วัน 29 จังหวัดไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม  4 คนสัตหีบเป็นไข้รักษาตัวต่อ เผยสถิติป่วยและเสียชีวิตเพียง 1.7 % ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ขณะที่กลุ่มอายุ 50-59 ปี ดับสูงที่สุด  ส่วนโรคประจำตัวอันดับ 1 คือโรคเบาหวาน

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2563  ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า  สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 33 ราย หายป่วยแล้ว 1,787 ราย  ผู้ป่วยสะสม 2,733 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 899 ราย และเสียชีวิตวันนี้ 0 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 47 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุด 20-29 ปี และช่วงอายุ 30-39 ปี ซึ่ง 2 ช่วงอายุสลับกันขึ้น ขอให้คนในครอบครัวช่วยกันดูแลคนกลุ่มนี้ให้ดี เพราะเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อสูงสุด และเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมยังพบว่ากรุงเทพฯ และนนทบุรี ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะสถาบันบำราศนราดูรอยู่ใน จ.นนทบุรี ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในจังหวัดมีตัวเลขสูงขึ้น จะว่าเขาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องไม่ว่ากัน เพราะตัวเลขดังกล่าวเป็นสถิติที่เอาไว้สอนใจ เตือนใจว่า เราจะหาทางแก้ไขอย่างไรต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ในส่วน 29 จังหวัดไม่พบผู้ป่วยเพิ่มใน 14 วันที่ผ่านมา คือ ระยอง และตาก เมื่อวิเคราะห์อัตราการเสียชีวิตของประเทศไทยจำนวน 47 รายตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-17 เม.ย. ว่าอัตราการป่วยและเสียชีวิตอยู่ที่ 1.7% ถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่นๆ แสดงถึงศักยภาพทางการแพทย์สาธารณสุขของเรา ทั้งนี้ กลุ่มอายุที่เสียชีวิตมากที่สุด คือ อายุ 50-59 ปี จำนวน 14 รายจากผู้ป่วย 367 รายนับเป็น 29.8 % ถือว่าหนักที่สุด  ขณะที่โรคประจำตัวที่พบร่วมในผู้เสียชีวิตนั้น อันดับ 1 คือโรคเบาหวาน  รองลงมา โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ ซึ่งคนที่ไม่มีโรคประจำตัวก็เสียชีวิตได้ จึงประมาทไม่ได้ จะบอกว่าแข็งแรงดีก็เสียชีวิตได้ แม้จะอายุน้อย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในส่วนสถานการณ์ต่างประเทศ ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อ 2,250,751 ราย เสียชีวิต 154,261 ราย โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งอยู่ๆมีผู้ติดเชื้อเพิ่มภายในวันเดียว 1,290 ราย ทั้งที่ประเทศเขากำลังจะเปิดเมือง จึงเป็นเรื่องเตือนใจถึงมาตรการของเราที่จะออกต้องดูสถานการณ์โลก เรื่องนี้ต้องวิเคราะห์ดูสถานการณ์ข่าวสารกันต่อไป อัตราการเสียชีวิตเป็นตัววัดการป้องกันโรคและรักษา เรื่องการเสียชีวิตก็เป็นเรื่องใหญ่ของทุกประเทศในโลกนี้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถิติการรณรงค์ในช่วง 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปีนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ยอดบาดเจ็บทางถนนลดลง โดยปีใน 63 ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 9,764 ราย ลดลงจากปี 61 ที่มี 28,993 ราย และปี 62 ที่มี 30,212 ราย ลดลง 67.68 %  ส่วนสถิติผู้เสียชีวิตทางถนน ปี 63 อยู่ที่ 150  ราย ลดลงจากปี 61 ที่มีจำนวน 487  ราย และปี 62 ที่มีจำนวน 517 ราย  ถือว่าลดลงถึง 71% ซึ่งหลายคนบอกว่าอยากให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทุกปี แต่คนก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้น

ส่วนผลการปฏิบัติงานของฝ่ายมั่นคงช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 17 เม.ย.ต่อเนื่องเช้าวันที่ 18 เม.ย. ออกนอกเคหสถาน 691 ราย ลดลงจากเมื่อวาน 129 ราย ชุมนุมมั่วสุม เสี่ยงต่อการติดเชื้อ 113  ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 4 ราย ซึ่งสาเหตุของการมั่วสุ่มยังคงเป็นการดื่มสุรา เล่นพนัน และยาเสพติด โดยจังหวัดที่มีผู้ฝ่าฝืนมากที่สุด 10 อันดับแรกอันดับ 1 คือ นนทบุรี  กรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรปราการ สงขลา สมุทรสาคร ภูเก็ต กระบี่ พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี  ส่วน 10 จังหวัดที่ไม่มีผู้กระทำผิด คือ ยโสธร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี แม่ฮ่องสอน อ่างทอง  ฉะเชิงเทรา ตราด สุโขทัย และสมุทรสงคราม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า วันเดียวกันนี้จะมีนักเรียนทุนเอเอฟเอส 2 เที่ยวบินเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มแรกจำนวน 162 คน ลงที่สนามบินอู่ตะเภา เมื่อเวลา 11.15 น. และช่วงเวลา 21.45 น.ซึ่งเป็นเที่ยวสุดท้าย อีกจำนวน 132 คนลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยในการประชุมของ ศบค.วงเล็กในวันเดียวกันนี้ อยากฝากประชาชนที่อยู่รอบๆ สถานที่กักตัวคนไทยกลับจากจากต่างประเทศไม่ต้องกังวลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมีการประกอบการทำงานจากหลายภาคส่วน ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร และสาธารณสุข และสถานที่ใช้กักตัวมีการประเมินมีระบบดูแลให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ และตามกระบวนการทุกอย่าง

"มั่นใจได้ว่าสถานที่กักตัวทุกแห่งถูกประทับตราว่ามีคุณภาพเพียงพอ  ท่านที่อาศัยอยู่รอบๆไม่ต้องกังวลว่าผู้ป่วยเมื่อไอ หรือจามอากาศที่อยู่แถวนั้นจะลอยมาติด ไม่ต้องไปคิดขนาดนั้น เพราะระยะ 2 เมตรละอองฝอยก็ตกลงพื้นแล้ว และคนที่ถูกกักตัวไม่มีสิทธิจะออกมาข้างนอก การเก็บขยะ และอาหารมีการจัดเก็บตามมาตรฐานสาธารณสุข"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

เมื่อถามว่า จำนวนคนไทยที่ลงทะเบียนขอกลับประเทศมีกี่คน นพ.ทวีศิลป์ กล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานข้อมูลลงทะเบียนของคนไทยที่จะเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 15-18 เม.ย. ในด่านชายแดนทั่วประเทศ จำนวน 1,984 คน โดยด่านชายแดนใต้จำนวน 1,604 คน ซึ่งเฉลี่ยแต่ละวันเดินทางผ่านเข้ามาประมาณ 200 คน ซึ่งสามารถรองรับได้ ส่วนผู้ที่จะบินกลับมาถือว่ามีน้อยมาก ส่วนสถานที่กักตัวในแต่ละพื้นที่ถือว่าเพียงพอกับคนที่จะเข้ามา หากพื้นที่เต็มก็จะขยับไปจังหวัดใกล้เคียง

เมื่อถามต่อว่า คนไทยกักตัวที่บ้านรับรองสัตหีบครบกำหนด 14  วัน แต่พบว่ามี 4 คนมีไข้สูงมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 แม้ว่าจะกักตัวไว้ 14 วันหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราพยายามดูแลเอาช่วงเวลา 14 วันมาคัดกรอง เพื่อให้มั่นใจและให้แต่ละคนได้ดูแลพื้นฟูร่างกาย ซึ่ง 4 คนดังกล่าว ไม่ใช่ 4 คนแรกที่พบว่ามีไข้ ในช่วงจะครบ 14 วัน ก่อนหน้านี้มีกลุ่มแรงงานเดินทางกลับจากประเทศเกาหลี และกลุ่มคนไทยกลับจากอู่ฮั่น ประเทศจีนก็ถูกกักตัวครบ 14 วันพบว่ามีไข้เช่นกัน  จากนี้ 4 คนดังกล่าวเราก็จะนำไปเข้ารับการรักษาต่อไป ส่วนคนที่เหลือสามารถกลับบ้านได้ แต่ก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน  ถ้าไปในที่คนพลุกพล่าน หรือไม่ใส่หน้ากากอนามัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แพทย์แนะตัดไฟ‘โรคไต’แต่ต้นลม ‘ตรวจความดัน-น้ำตาล’คุมอาการโรค แพทย์แนะตัดไฟ‘โรคไต’แต่ต้นลม ‘ตรวจความดัน-น้ำตาล’คุมอาการโรค
  • \'สมศักดิ์\'เปิดงานประชุมเบาหวานโลก ชี้สถานการณ์ NCDs น่าห่วง 'สมศักดิ์'เปิดงานประชุมเบาหวานโลก ชี้สถานการณ์ NCDs น่าห่วง
  • \'สมศักดิ์\'เผยเตรียมดึงเครือข่าย สสส.ช่วยผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน 'สมศักดิ์'เผยเตรียมดึงเครือข่าย สสส.ช่วยผู้ป่วยเบาหวานในชุมชน
  •  

Breaking News

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 2​ กรกฎาคม 2568

'แอ๊ด คาราบาว'ฟันธง! ถ้าเพื่อไทยดันทุรังสร้างกาสิโน 'พรรค-ตระกูลเจ้าปัญหา'สาปสูญแน่

ลุงพลาดท่าถูกหลานชายป่วยทางจิตกระทืบดับ หลังทะเลาะกันในวงเหล้า

รวบสาว Sex Creator สร้างคอนเทนต์ลามกอนาจาร

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved