‘บอร์ด กพฐ.’เคาะประกาศคุมตั้งสถานศึกษา จี้รร.เลิกขึ้นป้ายนร.สอบติดแพทย์-วิศวะ
8 พฤษภาคม 2563 รศ.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ประธาน กพฐ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ กพฐ.ว่า ที่ประชุมได้แจ้งให้ทราบถึงร่างประกาศกฎกระทรวง ว่าด้วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.... โดยที่เห็นเป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2550 ให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งต่อไปการจะตั้งสถานศึกษาคงจะตั้งไม่ได้ง่ายๆ จะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้และดูปริมาณของนักเรียนในปีปัจจุบัน และปีถัดไปว่าจะมีเด็กจำนวนเท่าใดด้วย
ประธาน กพฐ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคเหนือ ขอควบรวม 13 แห่ง และขอเลิกสถานศึกษา 11 แห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากสถิติยังมีควบรวมน้อยมาก ส่วนพื้นที่ที่ผู้ปกครอง หรือนักการเมืองคัดค้านเมื่อจะมีการควบรวมโรงเรียนนั้น เนื่องจากระเบียบเดิมเขียนไว้ว่าต้องฟังความเห็นของผู้ปกครอง แต่ถ้าผู้ปกครองได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และมีการพัฒนาโรงเรียนที่จะไปควบรวมให้ดีขึ้น ตนคิดว่าผู้ปกครองก็คงเห็นว่าดีด้วย และพาลูกไปเรียนอย่างแน่ นอน แต่ตอนนี้ประเด็นคือเขาไม่แน่ใจว่าโรงเรียนที่ไปควบรวมนั้นดีกว่าเดิมหรือไม่ ก็เลยบอกว่าขออยู่ที่เดิมก็ได้ และปัญหาคือเราไม่สร้างที่ใหม่ให้เห็นชัดเจนว่าดีกว่าเดิม ซึ่งโดยธรรมชาติของมนุษย์จะกลัวในสิ่งที่ตัวเองยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าเราสร้างความเข้าใจดีๆและถูกต้องก็ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะผู้ปกครองทุกคนก็อย่าให้ลูกตัวเองได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงหลักสูตรฐานสมรรถนะ ซึ่งกำลังพัฒนาและนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบแล้ว ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมได้รับรายงานความก้าวหน้า โดยที่ประชุมมีข้อเสนอว่าอาจต้องให้ครูทราบล่วงหน้าเป็นระยะๆว่าหลักสูตรสมรรถนะนี้ มีการเลี่ยนแปลงหรือมีความแตกต่างจากหลักสูตรเดิมอย่างไร เพื่อให้ครูมีความเข้าใจเบื้องต้น และเตรียมความพร้อมโดยที่ไม่ต้องรอให้หลักสูตรเสร็จก่อน จึงค่อยประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ครูทำใจและปรับเปลี่ยนจากฐานเดิมที่เน้นเรื่องของเนื้อหาเป็นหลัก ก็ให้มาเน้นสมรรถนะเป็นหลักแทน
“หลักสูตรฐานสมรรถนะนี้ คงจะกระทบกับขบวนการเรียนการสอนใหม่ทั้งหมดของครู ดังนั้นจะต้องมีคู่มือครูที่ชัดเจนเพื่อไกด์ไลน์ให้ครูปฏิบัติการสอนได้ง่ายขึ้น และให้เน้นบูรณาการความรู้แก่เด็ก” รศ.เอกชัย กล่าว
รศ.เอกชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้หารือถึงการเตรียมการเรียนออนไลน์ ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ได้เตรียมการสอนไว้ทุกรูปแบบแล้ว ทั้งสอนแบบออนไลน์ สอนแบบผสม โดยครูสามารถที่จะใช้รูปแบบผสมได้ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องสอนออนไลน์อย่างเดียว แต่ตนฝากเลขาธิการ กพฐ.ไปว่าไม่ได้เน้นสอนออนไลน์ หรือเนื้อหาที่สอน แต่ให้เน้นว่าสอนอย่างไรให้เด็กสามารถบูรณาการความรู้ได้ และสิ่งที่อยากเห็นการเรียนฐานสมรรถนะ จะต้องมีรายงานพัฒนาการของเด็กที่มีความก้าวหน้าขึ้นทุกปี เพื่อให้เกิดการพัฒนาได้เต็มที่
“วันนี้ผมได้ฝากนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ว่า ทำอย่างไรจึงจะไม่ให้โรงเรียนมัธยมที่มีการแข่งขันสูง ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด เลิกขึ้นป้ายหน้าโรงเรียน ว่ามีเด็กในโรงเรียนไปสอบติดแพทย์, วิศวะ ผมขอให้เลิกใช้นักเรียนสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ซึ่งโดยส่วนตัวผมอึดอัดกับวิธีนี้มาก ที่โรงเรียนขึ้นป้ายใหญ่โตติดหน้าโรงเรียน โรงเรียนจะให้ความสำคัญเฉพาะแพทย์ วิศวะ เท่านั้นหรือ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้มานานแล้ว” ประธาน กพฐ.กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี