เลขาธิการศาลฯเผยพิษโควิด-19ระบาดทำศาลชั้นต้นทั่วประเทศเลื่อนพิจารณาคดี1.6แสนคดี ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เตรียม"เปิดศาลนอกเวลาราชการ"เร่งระบายคดี
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม หรือ ก.บ.ศ.ซึ่ง นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ได้ออกประกาศเรื่องการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 (1) และมาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 ให้ศาลชั้นต้นทุกศาลเลื่อนนัดพิจารณาคดีจัดการพิเศษทุกคดี ที่นัดไว้ในระหว่างวันที่ 24 มี.ค.ถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยกำหนดวันนัดใหม่ในเวลาที่เหมาะสมนั้น จากรายงานสถิติข้อมูลจำนวนคดี ที่เลื่อนนัดพิจารณาของศาลชั้นต้นทั่วประเทศรวมคดีที่เลื่อนนัดพิจารณาของศาลชั้นต้นทั่วประเทศ จำนวน 163,620 คดี
นายสราวุธ กล่าวว่า หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสอดรับกับมาตรการของรัฐบาล ต้องการลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อดังกล่าว ก.บ.ศ.จึงมีมติให้เลื่อนคดีจัดการพิเศษ คดีสามัญและคดีสามัญพิเศษที่นัดสืบพยานเดิม ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.ถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ และให้ไปกำหนดวันนัดสืบพยานใหม่ในเดือน มิ.ย. - ก.ค.ส่วนคดีที่รับฟ้องใหม่ในเดือน มี.ค. - พ.ค.ให้กำหนดวันนัดพิจารณาคดีตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย.นี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ศาลได้คำนึงถึงประชาชน ผู้มีอรรถคดี เป็นหลัก เพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน จึงได้กำหนดข้อยกเว้นบางคดีที่ไม่เลื่อน เช่น คดีอาญาที่จำเลยต้องขัง คดีแพ่งบางประเภท และคดีอื่นๆ ที่เจ้าของสำนวนและองค์คณะพิจารณาเห็นว่าสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาไปได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้อง และหากเลื่อนคดีไปอาจทำให้คู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหาย โดยคำนึงถึงความยินยอมของคู่ความ
นอกจากนี้ ศาลยังได้มีการกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการคดี โดยอาจใช้ดุลพินิจกำหนดให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือนำนวัตกรรมเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์มาดำเนินการช่วยให้คดีเสร็จไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคดีและการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งสอดรับกับนโยบายของประธานศาลฎีกา ในการนำเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความยุติธรรม
ทั้งนี้ ศาลอาจกำหนดให้มีการพิจารณาคดีเพิ่มเติมในช่วงนอกเวลาราชการ และวันหยุดราชการเพิ่มเติม ตั้งแต่เดือนมิ.ย.โดยจะจัดทำเป็นโครงการเปิดทำการศาลนอกเวลาราชการเพื่อเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีที่เลื่อนมาดังกล่าวให้แล้วเสร็จ
สำหรับการเลื่อนคดีจัดการพิเศษ คดีสามัญและคดีสามัญพิเศษที่นัดสืบพยานเดิมออกไป ซึ่งแน่นอนว่า มีผลกระทบอย่างมากต่อประชาชน คู่ความ และผู้มีอรรถคดี และถือว่าการเลื่อนพิจารณาคดีครั้งนี้ จำนวน กว่า 163,620 คดี เป็นการเลื่อนคดีที่มีจำนวนที่มากและต้องเลื่อนเป็นระยะเวลายาวนานสุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ศาลยุติธรรมจะยังไม่หยุดยั้งในการนำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาในการอำนวยความสะดวกกับประชาชน ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี