เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ตู้เย็นข้างบ้าน” เชิญชวนคนไทยปลูกผักเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด หรือที่เรารู้จักกันในนามเมล็ดพันธุ์ตราศรแดง และกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ทำ MOU กันเพื่อสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวให้แก่เกษตรกรและผู้ได้รับผลกระทบ COVID-19 และร่วมกันสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการปลูกพืชผักสวนครัว และพัฒนาหลักสูตรเรียนรู้การปลูกพืชผักผ่านเครือข่าย Yong Smart Farmer และ โรงเรียนยุวเกษตรกร ระหว่างเก็บตัวจากการระบาดของโรค COVID-19 โดยมีคุณวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด และ คุณเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ให้เกียรติร่วมในพิธีลงนาม ณ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด (สำนักงานใหญ่) อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

สำหรับรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ทางอีสท์ เวสท์ ซีด จะแจกฟรีเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป 1 ชุด ประกอบด้วยเมล็ดพันธุ์ ผักบุ้ง แตงกวา โหระพา พริกขี้หนู มะเขือพวง เป็นต้น แจกจ่ายให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจทำการเกษตรในการปลูกพืชผักสวนครัว และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เป้าหมาย 10,000 ราย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ให้มีพืชผักอาหารสำหรับบริโภค สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ยังสามารถศึกษาเรียนรู้องค์ความรู้และข้อมูลทางด้านการเกษตร เช่น เรื่องการดำรงชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การปลูก การดูแลรักษา การผลิตและขยายพันธุ์พืชผักตามชนิดพืชในโครงการ ผ่านทางเว็บไซต์หรือช่องทางการสื่อสารของกรมส่งเสริมการเกษตร ในขณะที่ทางบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด ก็มีเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่พร้อมให้ความรู้ให้คำแนะนำทั้งในด้านของการผลิต และการตลาด ครบจบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กับเกษตรกรที่ต้องการต่อยอดเป็นอาชีพ และนอกจากโครงการนี้แล้ว ทางอีสท์เวสท์ ซีด เอง ก็ยังมีโครงการ “ผักโรงเรียน” ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ และองค์ความรู้ด้านการปลูกผักให้กับโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนนำผลผลิตที่ได้มาทำเป็นอาหารกลางวันและยังเป็นการเสริมสร้างอาชีพให้กับนักเรียน ซึ่งสอดคล้องกับ โรงเรียนยุวเกษตรกร ของกรมส่งเสริมการเกษตรอีกด้วย จึงนับว่าเป็นการร่วมมือที่ดีในการที่จะพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะวิชาการด้านการเกษตร เพื่อถ่ายทอดให้แก่กำลังคนภาคการเกษตร เกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer และ Smart Farmer องค์กรเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ระหว่างหน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชน โดยไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว

อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าภายหลังจากได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการ “ตู้เย็นข้างบ้าน” ผ่านเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็วภายใน 2-3 ชั่วโมง และได้ปิดการรับลงทะเบียนในเฟส 1 ไปแล้วทำให้หลายคนที่ลงทะเบียนไม่ทันเรียกร้องให้มีเฟส 2 ต่อ เมื่อเป็นโครงการดีๆ ที่ได้รับความสนใจอย่างนี้ ท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงให้กรมส่งเสริมการเกษตรประสานกับอีสท์ เวสท์ ซีด และภาคเอกชนอื่นๆ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สานต่อโครงการดังกล่าวในระยะที่ 2 ต่อทันทีและจะขยายผลโครงการไปทั่วประเทศอีกด้วย

ซึ่งนอกร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนิน “โครงการตู้เย็นข้างบ้าน” แล้ว ที่ผ่านมาทางกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรก็ยังได้จัดทำ “โครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิต สู้โควิด-19” เป็นมาตรการเสริมในการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อยู่ก่อนแล้ว เพื่อให้เกษตรกรและผู้ได้รับผลกระทบมีพืชอาหารบริโภคสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาตนเอง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สร้างความมั่นคงทางอาหาร เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน ตลอดจนการแก้ปัญหาการขาดแคลนพันธุ์พืชพันธุ์ดีในท้องถิ่น ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อดำเนินการตามระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์ปฏิบัติการของกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 34 หน่วยงาน ได้ดำเนินการผลิตต้นพันธุ์พืชผักสมุนไพรรวมทั้งสิ้น 3,634,464 ต้น เพื่อเตรียมแจกจ่ายและกระจายต้นพันธุ์พืชผักสมุนไพรให้กับเกษตรกรและผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ครัวเรือน/หมู่บ้าน ซึ่งจะส่งมอบผ่านสำนักงานเกษตรอำเภอไปยังอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) และส่งมอบต่อไปยังเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 882 อำเภอ 225,390 ครัวเรือน...นับว่าเป็นโครงการที่ดีและอาจจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้กับใครหลายๆ คน ที่อาจจะยึดอาชีพปลูกผักเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักต่อไปในอนาคต ส่วนการดำเนินโครงการในระยะที่ 2 จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อไหร่ ให้รอติดตามข่าวสารจากกรมส่งเสริมการเกษตรได้เลยครับ

สุธิพงศ์ ถิ่นเขาน้อย