สธ.เร่งสอบสวนประวัติ 2 ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในประเทศ สั่งตรวจหาเชื้อเฝ้าระวังคนใกล้ชิด วอนประชาชนอย่าการ์ดตก เพื่อให้กิจการรอเปิดระยะ 3 และ 4 เป็นตามแผนวางไว้

21 พฤษภาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid 19) ในรอบ 24 ชั่วโมงวันนี้ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 3 รายนั้น ในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 25 ปี เดินทางกลับจากฟิลิปปินส์ และเข้ากักกันเฝ้าดูอาการในสถานกักกันของรัฐ (State quarantine)

ขณะที่อีก 2 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ พบว่า ไปในสถานที่ชุมชนต่างๆ โดยรายที่ 1 ชายไทยอายุ 72 ปี หากดูไทม์ไลน์จะมีไปโรงพยาบาล เพื่อทำ TC สแกน และไปตัดผมที่ร้านตัดผม ซึ่งเริ่มผ่อนปรนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่วนอีก 1 รายเป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 42 ปี มีภรรยาเป็นคนไทย แต่มีประวัติเดินทางไปเยี่ยมญาติ จ.ชัยภูมิ ทีมสอบสวนโรค ได้ซักประวัติทราบว่าไปห้างสรรพสินค้า จ.ชัยภูมิ

“สำหรับทั้ง 2 ราย ถือว่าเป็นการติดเชื้อในชุมชน ภายในประเทศ และมีกิจกรรมที่สัมพันธ์กับกิจการที่มีมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ทั้งนี้เป็นเรื่องที่คาดการณ์ว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้นได้ ถ้าเมื่อไรที่การ์ดตก ที่สำคัญ 2 รายนี้ไม่มีประวัติสัมพันธ์กับผู้ป่วยก่อนหน้า แต่เกิดจากช่วงการเปิดกิจการกิจกรรม จึงต้องฝากพี่น้องประชาชน และผู้ประกอบกิจการต้องเข้มงวด เพื่อที่เราจะได้สามารถเปิดผ่อนปรนกิจการในระยะที่ 3 และ 4 ต่อไปตามแผนที่วางไว้ ขณะนี้แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มหลักเดียว เราก็ไม่อยากเห็นตัวเลขมากกว่านี้” นพ.อนุพงศ์ กล่าว

นพ.อนุพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยราย 72 ปี ขอดูก่อนว่าทีมสอบสวนโรคได้ข้อมูลและลงไปพื้นที่ ทั้งโรงพยาบาลอะไร ร้านตัดผมอะไร และห้วงเวลาไหน ซึ่งเวลานั้นมีการสัมผัสใกล้ชิดกับใครบ้าง ใครสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ เสี่ยงสูง จะได้วิเคราะห์ออกมา มีใครมานั่งรอที่ร้านตัดผม ต้องดูทั้งหมด ทั้งผู้สัมผัสร่วมบ้านด้วย ต้องดูคนใกล้ชิดที่สุด ทั้งครอบครัว บุตรหลาน ต้องติดตามและเก็บตัวอย่างตรวจว่ายังมีใครบ้างที่มีโอกาสรับเชื้อจากผู้ป่วยคนนี้ อย่างไรก็ตาม หากโรงพยาบาลหรือร้านตัดผม มีการลงระบบแพลตฟอร์มไทยชนะ หากไปและมีการเช็กอินจะมีข้อมูลตรงนี้ ซึ่งเราจะติดตามและสอบสวนโรคได้ว่ามีใครบ้างเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่ห้วงเวลา จากนั้นก็จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาตรวจ

“ในส่วนผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เราคิดว่ามีมาตรฐานดีระดับหนึ่ง อย่างมีพี่น้องคนไทยเดินทางกลับจากบราซิล รัสเซีย โดยเมื่อวานมีผู้เดินทางเข้ามาจาก 2 ประเทศ ที่เป็นกลุ่มประเทศที่มีการติดเชื้อสูงอันดับ 2 , 3 รองจากสหรัฐอเมริกา เราก็มีระบบในการตรวจสอบให้อยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ แต่ในส่วนการติดเชื้อในชุมชนต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการช่วยกันปฏิบัติตัวป้องกันโควิด” นพ.อนุพงศ์ กล่าว