เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีการแอบอ้างหน่วยงานรัฐเรียกค่าหัวคิวโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ หรือ State Quarantine ว่า ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ว่าน่าจะมีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง โดยกำลังประสานงานกับหน่วยราชการที่ได้รับความเสียหายจากการถูกกล่าวอ้าง ซึ่งจะเป็นกระทรวงสาธารณสุขที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่ไปกล่าวอ้างว่าสามารถใช้วิธีการใดๆทำให้โรงแรมได้สิทธิการเข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ
ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิด เพราะฉะนั้นจะเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีหมิ่นประมาท และยังไม่พบว่ามีใครต้องเสียเงินจากการถูกหลอกลวง ซึ่งรายละเอียดต้องรอความชัดเจนจากทางตำรวจภูธรภาค2 โดยคาดว่าจะชัดเจนในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ และเชื่อว่ากรณีดังกล่าวได้มีการรายงานไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว
"ยังไม่ได้รับรายงานว่าผู้ที่ไปกล่าวอ้างเป็นบุคคลใกล้ชิดหรือมีความสัมพันธ์กับนักการเมืองแต่อย่างใดโดยเป็นบุคคลธรรมดาที่ไปกล่าวอ้าง แต่ยืนยันว่า ถ้าสืบสวนสอบสวนไปถึงใคร จะต้องดำเนินคดีทุกคน โดยไม่มีความกังวลเกี่ยวกับตัวบุคคลว่าจะเป็นใคร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายมาแล้วว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ต้องดำเนินคดีให้หมด"รองผบ.ตร.กล่าว
มีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ(ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2563 โดยนายกฯ ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวของรัฐ หรือ State Quarantine
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี