จนท.อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นำกำลังล้อมจับ 3 หนุ่มแก๊งมอดไม้ชาวสุพรรณบุรี ยึดของกลางได้ทั้งไม้แปรรูป ยาบ้า-ฝิ่น-อาวุธปืน แถมเจอข้อห่าแหกเคอร์ฟิวอีก 1 ข้อหา   

วันนี้ (1 ม.ย.63) นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าพบขบวนการลักลอบแปรรูปไม้และกำลังขนย้ายออกจากบริเวณป่าบ้านกลาง ท้องที่หมู่ 1 ต.เขาโจด อ.สรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ที่พิกัด 0520603 E 1635783 N หลังจากได้รับแจ้งตนจึงสั่งการให้นายชาญ อินทร์กุล หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯที่ ศร.3 (บ้านกลาง)ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯที่ ศร.10 (องศิต) พร้อมผู้นำท้องถิ่น นำกำลังไปซุ่มโป่งบริเวณเส้นเข้าออกพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.ของวันนี้ (1 มิ.ย.)คณะเจ้าหน้าที่พบแสงไฟหน้ารถยนต์กระบะ กำลังวิ่งมาทางเจ้าหน้าที่ที่กำลังซุ่มโป่งอยู่ ภายในรถเป็นชายมาด้วยกัน จำนวน 3 คน 

เมื่อมาถึงจึงได้แสดงตัวพร้อมกับเรียกคนขับให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นพบไม้เสลาแปรรูปปกคลุมด้วยแสลนที่กระบะจำนวน 3 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงคุมตับชายทั้ง 3 รายเอาไว้ทราบชื่อคือนายวสันต์ อ่ำอ่อน อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ 12 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี นายประดิษฐ์ ทองสุข อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 5 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และนายพิเชษฐ์ (เยาวชน)อายุ 16 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 8 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

นายฐิติ โสมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายตามร่างกายของบุคคลทั้ง 3 ประกฎว่านายวสันต์ อ่ำอ่อน ได้พยายามดิ้นรนขัดขืนการตรวจค้น ทำให้อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอกที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าแบบสะพายตกหล่นลงมา เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเอาไว้ พร้อมกับตรวจสอบหาสิ่งผิดกฎหมายภายในกระเป๋า ปรากฏพบเครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 5 นัด ยาบ้า จำนวน 296 เม็ด ฝิ่นดิบ จำนวน 1 ก้อน ฝิ่นปรุงอีก จำนวน 1 ก้อน โดยมีอุปกรณ์การเสพจำนวน 1 ชุด และเงินสด จำนวน 6,318 บาท 

ดังนั้น คณะเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยังถูกดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนด ตามมาตรา 9 แห่ง พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 น.ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นอีกด้วย