เมื่อเร็วๆ นี้ อูซ่อ นุ่น สลิน รัฐมนตรีการวางแผนและเศรษฐกิจ รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ได้เดินทางมาตรวจชายแดนเมียนมา-ไทย ด้าน จ.ท่าขี้เหล็ก หลายพื้นที่เพื่อดูความเป็นอยู่และเศรษฐกิจช่วงที่เกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 รวมทั้งได้มีการประชุมร่วมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องใน จ.ท่าขี้เหล็ก และได้มีการเชิญให้ น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ของฝ่ายไทยเข้าร่วมด้วย ซึ่งที่ประชุมมีการแจ้งข้อมูลว่าหลังมีการปิดด่านไทย-เมียนมา ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.63 เป็นต้นมา พบว่าทั้ง 2 ประเทศยังมีการค้าชายแดนระหว่างกันอย่างต่อเนื่องโดยใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ดังกล่าวเป็นจุดขนส่ง
โดยพบว่าสินค้าที่ จ.ท่าขี้เหล็ก นำเข้าจาก อ.แม่สาย มากที่สุด คือน้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภค บริโภค พืช ผัก ผลไม้ ฯลฯ ส่วนสินค้าที่ส่งไปยังประเทศไทยมากที่สุดคือ เมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผลส้ม แร่แมงกานิส ฯลฯ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าแม้จะมีการปิดด่านพรมแดนแต่มูลค่าการค้าไม่ได้ลดลงและมีมูลค่าใกล้เคียงกับช่วงเปิดด่านพรมแดน แต่สิ่งที่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศประสบปัญหามากที่สุดคือเศรษฐกิจที่เกิดจากการค้าขายรายย่อยและการท่องเที่ยวที่หายไป ทำให้ น.ส.ผกายมาศ ได้เสนอให้นำร่องเปิดด่านไทย-เมียนมา ที่มีความพร้อมก่อนประกอบด้วย อ.แม่สาย อ.แม่สอด จ.ตาก อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันถือว่าไม่พบผู้ติดเชื้อในย่านดังกล่าวเลย ซึ่งทางรัฐมนตรีการวางแผนและเศรษฐกิจของรัฐฉานได้รับจะนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทาง อูซ่อ นุ่น สลิน ยังได้แจ้งต่อที่ประชุมให้หอการค้าจังหวัดท่าขี้เหล็ก มีการประสานจัดประชุมร่วมกับกับหอการค้าจังหวัดเชียงราย เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าในอนาคตและให้รายงานไปยังรัฐฉานเป็นประจำทุกเดือน
น.ส.ผกายมาศ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ตนได้เสนอให้มีการใช้ถนนอาร์สามบีไทย-เมียนมา-จีนตอนใต้ อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดเพราะมีระยะทางห่างจากประเทศจีนเพียงประมาณ 250 กิโลเมตร โดยให้ทางการเมียนมาพิจารณาร่วมกับประเทศจีนเปิดด่านต้าล้อที่เมืองลาเชื่อมกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เพราะปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเพื่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ และเสนอให้ร่วมกันพัฒนาสินค้าทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปทางการเกษตรเพื่อส่งเข้าไปยังตลาดจีนด้วย
เมื่อมีการเปิดด่านพรมแดนหลังวิกฤติไวรัสโควิด-19 แล้วก็สามารถรองรับสินค้าไทย-เมียนมา เข้าไปยังประเทศจีนทั้งที่ผ่านด่านต้าล้อ ด่าน มูเซ-รุ่ยลี่ ในรัฐฉานตอนเหนือ ทางเรือแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งที่ท่าเรือสบหรวย หรือทางสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมียนมา-สปป.ลาว เมืองเชียงลาบ เชื่อมกับเมืองลอง แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ได้อีกด้วย
รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวด้วยว่านอกจากความเคลื่อนไหวในรัฐฉานดังกล่าวแล้วทางนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้รับทราบแนวทางการพัฒนาดังกล่าวและแจ้งให้ตนได้ประสานเพื่อให้มีการลงนามความร่วมมือเป็นบ้านพี่เมืองน้องหรือซิสเตอร์ซิตี้ระหว่าง จ.เชียงราย กับรัฐฉาน ด้วย เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายให้แน่นแฟ้นมากขึ้น และเมื่อมีการเปิดด่านพรมแดนแล้วก็จะทำให้ทั้ง จ.เชียงราย และรัฐฉาน สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจอันเกิดจากความซบเซาจากวิกฤติไวรัสโควิด-19 นี้ได้ต่อไปด้วย ดังนั้น เชื่อว่าหลังมีการเปิดด่านพรมแดนในเร็วๆ นี้ความร่วมมือจะขับเคลื่อนไปตามขั้นตอนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี