เสน่ห์ นัยเนตร
นายเสน่ห์ นัยเนตร ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์การปศุสัตว์ภาคตะวันออก จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลี้ยงสุกรว่า จากปัญหาอากาศร้อนและภัยแล้งจนถึงอากาศแปรปรวนตลอดทั้งวันในปัจจุบัน บางพื้นที่ร้อนอบอ้าวจนถึงมีฝนตกจากพายุฤดูร้อน ทำให้สัตว์ปรับสภาพร่างกายไม่ทัน เกิดความเครียด กินอาหารน้อยลง ร่างกายอ่อนแอและอาจเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น การเติบโตช้าลง พบว่าอัตราการสูญเสียในฟาร์มจากภาวะอากาศดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 10% ส่งผลให้เกษตรกรมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรต่างพยายามป้องกันโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ หรือ ASF ในสุกร เพื่อไม่ให้โรคนี้เข้ามาทำลายอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของไทยได้ ความพยายามในการป้องกัน ASF ของเกษตรกรทุกคนทำให้ไทยเป็นประเทศเดียวที่ปลอดโรคนี้ แม้ว่าเกษตรกรต้องมีต้นทุนเพิ่มแต่ก็ยินดีปฏิบัติตามมาตรฐานการเลี้ยงและการป้องกันโรคที่ภาครัฐแนะนะ พบว่าภาระค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันโรคเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 บาท ทั้งจากการใช้ยาฆ่าเชื้อพ่นป้องกันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง และค่าน้ำค่าไฟ ค่าแรงงาน
“นอกจากต้นทุนที่เพิ่มจากการยกระดับการป้องกันโรคแล้ว ภัยแล้งหนักในช่วงที่ผ่านมายังกระทบกับเกษตรกร ที่ส่วนใหญ่มีน้ำไม่เพียงพอ จึงต้องซื้อน้ำจากภายนอกมาใช้ในฟาร์มทุกวัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีก 2-3% หากเดือนมิถุนายนนี้ ยังไม่มีฝนใหญ่เข้ามาเกษตรกรต้องทุกข์กันหมด เพราะรถขายน้ำไม่มีน้ำมาขาย และยังมีค่าไฟเพิ่มเพราะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศและเดินระบบอีแวปตลอดเวลา ขณะที่สภาพอากาศแปรปรวนฉับพลันในปัจจุบันกำลังซ้ำเติมเกษตรกร ทำให้ลูกหมูอ่อนแอมาก มักเป็นไข้หวัด ป่วยง่าย จึงมีค่าเวชภัณฑ์ในการรักษาเพิ่ม และยังต้องแบกรับต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาแพงที่ถือว่าเป็นภาระหนักมากสำหรับคนเลี้ยง โดยปัจจุบันวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับราคาสูงขึ้นเป็นอย่างมาก อาทิ ปลายข้าวราคาสูงกว่า 12 บาทต่อกิโลกรัม และรำข้าวราคา 10-11บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนการผลิตปัจจุบัน 65-67 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาขายหมูเป็นหน้าฟาร์มประมาณ 66-71 บาทต่อกิโลกรัม”นายเสน่ห์ กล่าว
นายเสน่ห์กล่าวอีกว่า จากปัญหาหมูล้นตลาด หรือ Over Supply ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีเกษตรกรรายย่อยหายไปจากระบบมากกว่า 50% อย่างไรก็ตาม เกษตรกรทั้งประเทศยังร่วมกันบริหารจัดการทั้งระบบ เพื่อให้ไทยยังคงมีประชากรหมูเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ ส่วนภาวะราคาที่ปรับขึ้นลงก็เป็นไปตามกลไกตลาดในแต่ละช่วงเวลา ขณะเดียวกันขอฝากภาครัฐ ช่วยผลักดันเรื่องการส่งออกหมูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังคงมีความต้องการนำเข้าจากประเทศไทยอยู่มาก จากความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพมาตรฐานปลอดโรค ASF และมาตรฐานการผลิตของไทย ที่ปัจจุบันเกษตรกรรายย่อยได้หันมาปฏิบัติตามมาตรฐาน GAP ของกรมปศุสัตว์ ถือเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมหมูไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี