วันที่ 9 มิ.ย.63 พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นเกาะสมุยเพื่อดูที่เกิดเหตุและร่วมประชุมคณะทำงาน ติดตามความคืบหน้าคดีนางโอล่า โฟลโลว่า (Olha Frolova) อายุ 32 ปี สัญชาติยูเครน เสียชีวิตปริศนาในร่องน้ำธรรมชาติกลางป่ารกทึบ ซอยประชารักษ์พัฒนา ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
พล.ต.ต.ฐากูร และคณะ เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุที่พบศพนางโอล่า พร้อมฟังรายงานผลจากการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ การตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อไขปมการเสียชีวิตของนางโอล่า ซึ่งก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าศพของผู้ตายมีทางมะพร้าวมาปิดทับได้อย่างไร และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไปไหน โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาในรัศมี 100 เมตร จากจุดที่พบศพ
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่จะพบศพของนางโอล่า เสียชีวิตนั้น เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 25 พ.ค.63 นางโอล่า ขี่รถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน มาคืนที่ร้านรถเช่า มีการพูดคุยกับเจ้าของร้าน และตรวจสอบรถจักรยานยนต์ก่อนส่งคืน ต่อมาเวลา 11.54 น. นางโอล่า ได้เดินออกจากร้านรถเช่าไป จากนั้นเวลา 13.08 น. กล้องวงจรปิดบันทึกภาพของนางโอล่า เดินเพียงคนเดียวอยู่ภายในซอยประชารักษ์พัฒนา ห่างจากจุดพบศพเพียง 1.8 กิโลเมตร และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวที่เลยไปจากจุดที่พบศพ ไม่พบว่านางโอล่า เดินผ่านแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ก็พบว่าอยู่ในบริเวณจุดที่พบศพเช่นกัน จึงทำให้เจ้าหน้าที่เชื้อว่าเป็นช่วงวันและเวลาที่นางโอล่าเสียชีวิต
พล.ต.ต.ฐากูร ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คดีนี้มีปริศนามีเงื่อนงำหลายอย่างจะต้องคลี่คลายข้อสงสัยว่าศพของผู้ตายมีทางมะพร้าวมาปิดได้อย่างไร แต่ดูจากกล้องวงจรปิดผู้ตายมาคนเดียวไม่เห็นมีผู้ใดติดตามมา ซึ่งขัดแข้งกันหากมีคนที่จะคิดร้ายจะปองร้ายจะต้องมีคนติดตามมากระชั้นชิดซึ่งจะต้องผ่านกล้องแน่นอนแต่ว่าไม่เห็น ประกอบกับทรัยพ์สินและเงินของผู้ตายก็ยังอยู่ มีแต่โทรศัพท์มือถือเท่านั้นที่ยังหาไม่เจอซึ่งจะต้องค้นหา และดูเอกสารของผู้ตายที่โพสต์ถึงเรื่องการฆ่าตัวตายหลายๆอย่างก่อนที่จะเสียชีวิต และผู้ตายยังมีประวัติป่วยเป็นโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วหรือโรคไบโพลาร์
"คดีนี้อาจจะไม่ได้เป็นการฆาตกรรมก็ได้ แต่เพื่อความรอบคอบได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวชที่ตรวจได้ละเอียดกว่าที่โรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็จะต้องดูผลว่าผู้ตายตายจากสาเหตุอะไร ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน เพื่อจะได้มีคำตอบให้กับสังคม ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนก็ได้สอบปากคำสามีเก่า สามีใหม่ และผู้พบศพ รวมแล้ว 5 ปาก แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงสาเหตุการตายในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอผลการผ่าพิสจน์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจก่อน คาดว่าจะใช้เวลาในการผ่าพิสูจน์ไม่เกินสี่ถึงห้าวันจะทราบผล" ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าว
กระบะส่งของพุ่งชนรถสามล้อพ่วงข้าง สองตายายดับ ส่วนหลานที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ หลังจากมาเยี่ยมลูก กำลังเดินทางกลับพิจิตร 19 ม.ค.
รองผบช.ภ.5 เร่งรัดคดีฆ่า "บ๊อบบี้" เด็กวัย 7 ขวบ พบรอยเท้าใกล้ศพเพียบ ลุ้นผลดีเอ็นเอ ภายใน 2 ว
ลุงวัย 64 ปี ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง ลุกผิงไฟคลายหนาวข้างบ้าน ที่เมียก่อไว้ให้ก่อนเมียจะไปวัด กลับมาพบผัวนอนจมกองไฟ 17 ม.ค.64 เมื่อเ
นายอำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์เข้าให้กำลังใจครอบครัวเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่ถูกปู่ข่มขืนจนตั้งครรภ์นอกมดลูก มีอาการแพ้หนักอาเจียนเสียชีวิต ขณะที่ญาต
ญาติสุดเศร้ารับศพเด็กหญิงวัย 11 ขวบ เหยื่อปู่ข่มขืนจนตั้งครรภ์นอกมดลูก แพ้หนักอาเจียนเสียชีวิต ขณะที่ยายเผยก่อนหลานสาวเสียชีวิตยืนยันปู่ข่มขืนบอกทำผิ
รวบแล้ว! ปู่หื่นวัย66ปี ข่มขืนหลานสาววัย 11 ปี จนตั้งครรภ์นอกมดลูก มีอาการแพ้ อาเจียนจนเสียชีวิต เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ตอบเพียงว่ารักและเอ็นดูหลาน &
แม่เด็กหญิงวัย 11 ปี ถูกปู่แท้ๆข่มขืนจนตั้งครรภ์นอกมดลูกมีอาการแพ้ อาเจียนจนเสียชีวิต เผยลูกสาวตายอย่างทรมานในอ้อมกอด ขณะที่ตำรวจ สภ.สหัสขันธ์ เตรียมออกหมายจับปู่วัย 66 ปี
15 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 03.00 น. Hot Line News ปากช่อง รายงานว่า ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่ไปกางเต็นท์พักแรมบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่ามีช้างป่าออกมาเดินเข้าลานกางเต็นท์บริเวณลานตรงข้ามกับสำนักงานผากล้วยไม้กลางดึกขณะนักท่องเที่ยวยังนอนหลับใหลในเต็นท์ และทำร้ายนักท่องเที่ยวชายไทย ใช้เท้าเหยียบจนเสียชีวิต แล้วร้องคำราม จนนักท่องเที่ยวที่นอนในเต็นท์ตื่นแตกกระเจิงท่ามกลางความมืด ทราบว่าน่าจะเป็นช้างป่าที่เคยออกมาหากินและเดินฝ่าลานกางเต็นท์ และเคยรื้อเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้มาแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี