ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ลุยจับนายทุนรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ออน สร้างบ้านพักสุดหรูบนเนินเขา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายกรินทร์ จงเจริญสกุล เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหน่วยเฉพาะกิจปราบพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ภาคเหนือ กรมป่าไม้ ร่วมกับนายสัมพันธ์ พุฒด้วง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) , ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เชียงใหม่ , หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ดอยสะเก็ด , ศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ , ฝ่ายปกครองอำเภอแม่ออน , ตำรวจ สภ.แม่ออน และตำรวจ บก.ปทส กว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 140/3 บ้านสหกรณ์ 2 หมู่ที่ 2 ต.บ้านสหกรณ์ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ตามการแจ้งเบาะแสจากสายข่าว ว่ามีการ นำเครื่องจักรขนาดใหญ่ ปรับขุดและสร้างบ้านพักตากอากาศในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ออน
ต่อมาได้มีบุคคลมาแสดงตัวพร้อมแก้เจ้าหน้าที่ว่าเป็นเจ้าของ ทราบชื่อภายหลังคือนายฉัตรชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/154 หมู่ 3 ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบกับนายฉัตรชัยฯ ทราบพร้อมเป็นผู้นำตรวจและให้การว่าตนเป็นเจ้าของที่ดินและบ้านพักหลังดังกล่าวฯ ตนเองได้ทำการซื้อขายกับบุคคลหนึ่งมาแล้วประมาณ 2 ปี และทำการสร้างบ้านพักประมาณเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้มอบเอกสารการซื้อขายและเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบนายฉัตรชัยฯ ได้สร้าง บ้านพัก จำนวน 1 หลัง (มีห้องพัก 4 ห้อง) ยอมรับว่าเป็นผู้สร้างเองทั้งหมด เนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ นายฉัตรชัยฯ เป็นผู้นำชี้ขอบเขตพื้นที่การครอบครองที่ดินทั้งหมด
จากการนำชี้ของนายฉัตรชัยฯ ซึ่งได้นำชี้พื้นที่ครอบครองที่ประโยชน์โดยพื้นที่บางส่วนมีรั้วลวดหนามเสาคอนกรีตแสดงแนวเขตที่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ได้บันทึกค่าพิกัดด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (จีพีเอส) จำนวน 20 จุด ตามระบบฐานข้อมูล UTM WGS 1984 ระวางแผนที่ 4846 IV
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดและขึ้นรูปแปลงดังกล่าวพบว่าพื้นที่นำชี้ทั้งหมดจำนวนเนื้อที่ 19 - 3 - 78 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ออน จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ ปี พ.ศ.2545 ไม่มีร่องรอยการใช้ประโยชน์แต่อย่างใดมีสภาพเป็นป่า
เจ้าหน้าที่ชุดพยัคไพร จึงได้แจ้งให้ชายวัย 58 ปี ทราบว่า การบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 "ก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่" , พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และแก้ไขเพิ่มเติม ตามมาตรา 14 ฐาน "ยึดถือ ครอบครอง ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต" และ มาตรา 26/4 ฐาน “ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไป”
ด้านเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดแนวเขตและจัดรูปแปลง ก็พบว่าพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ออน จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ ปี พ.ศ.2545 ไม่มีร่องรอยการใช้ประโยชน์แต่อย่างใดมีสภาพเป็นป่า แต่ปัจจุบันถูกปรับแต่งเป็นบ้านพักตากอากาศ มีเนื้อที่เสียหาย 19 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา คิดเป็นมูลค่าเสียหายของรัฐ 1,349,870 บาท
จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ รถไถ 1 คัน และรถแบคโฮ 1 คัน และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.แม่ออน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่านสงวนแห่งชาติป่าแม่ออนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี